ดาวโจนส์ ปิดบวก 46 จุด จับตาเงินเฟ้อ-ประชุมเฟด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวน แกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้หรือไม่

  • มีแรงซื้อสลับแรงขาย รอติดตามการประกาศเงินเฟ้อวัยนี้
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ19-20 มี.ค.นี้
  • เจพีมอร์แกน เชส มาแปลกมองเฟดควรลดดอกเบี้ยหลังมิ.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 11 มี.ค.ที่ 38,769.66 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,117.94 จุด ลดลง 5.75 จุด หรือ -0.11%ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 16,019.27 จุด ลดลง 65.84 จุด หรือ -0.41%

นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริษัทผลิตชิป ทำกำไรหลังขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า โดยหุ้นซูเปอร์ ไมโคร คอมพิวเตอร์ ดิ่งลง 5% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 4.4% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (AMD) ร่วงลง 4.3% และหุ้นบรอดคอม ปรับตัวลง 1.2%

ส่วนหุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2% โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งรวมถึงอินวิเดียนั้น จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หลังจากที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีรายงานว่า อินวิเดียถูกนักเขียน 3 คนฟ้องร้องข้อหานำนิยายผลงานลิขสิทธิ์ของพวกเขามาใช้ฝึกแพลตฟอร์ม AI ของทางบริษัทที่ชื่อ “NeMo” โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคดีความดังกล่าวทำให้อินวิเดียกลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับเจเนอเรทีฟเอไอ (Gen AI) เช่นเดียวกันกับบริษัทอื่น ๆ เช่น โอเพนเอไอ ซึ่งเป็นผู้สร้างแพลตฟอร์ม ChatGPT และไมโครซอฟท์ ผู้เป็นหุ้นส่วนของโอเพนเอไอ

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3% หลังจากนายพีท บูติเจิจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FAA) จะดำเนินการตรวจสอบโบอิ้งอย่างเข้มงวด หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 9 ของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ ประสบเหตุชิ้นส่วนบริเวณผนังเครื่องบินหลุดกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันนี้ และดัชนี PPI ประจำเดือนก.พ.ในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 มี.ค.

ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนก.พ. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.7%

อย่างไรก็ตาม นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส กล่าวในวันนี้ (12 มี.ค.) ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรรอให้พ้นเดือนมิ.ย.ไปก่อนจึงค่อยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากมองว่าเฟดจำเป็นต้องสร้างความน่าเชื่อถือในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ สวนทางกับนักลงทุนที่เชื่อมั่นว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.