ททท.รับคณะนายกฯเศรษฐา บูมเที่ยว 3 จว.ชายแดนใต้ รายได้โต 300%

ททท.บูมท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ “นราธิวาส-ปัตตานี-ยะลา” ขานรับคณะนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต่อยอดปี’66 ทำเงินสะพัดกว่า 9,764 ล้านบาท

  • ททท.ขานรับนโยบายฟื้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ปี 67 ปลุกเที่ยว 4 เส้นทางสุดฮ็อต
  • เดือน ก.พ.นี้ สายมูแห่จองที่พักเต็ม มี.ค.ลุยโปรโมต “แข่งนกเขาชะวา-เทศกาลอาหารอร่อย”
  • ปี’66 “นราธิวาส-ปัตตานี-ยะลา” ท่องเที่ยวทำสถิติรายได้โต 145-304%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้นำคณะร่วมกิจกรรม “เที่ยวใต้ สุดใจ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) วันที่ 27-29 ก.พ.67 เพื่อต่อยอดกิจกรรมการท่องเที่ยวครบวงจร กระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนใต้ให้คึกคักตลอดทั้งปี ต่อเนื่องจากปี 66 ตามสถิติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้มีรายได้ท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 9,764.4 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 2,892,073 คน ประกอบด้วย

นราธิวาสมีรายได้ท่องเที่ยวรวม 3,180.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 304.28% จำนวนรวม 791,999 คน เพิ่มขึ้น 109.99% แบ่งเป็น คนไทย 1,38.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.23% จำนวนนักท่องเที่ยว 385,146 คน เพิ่มขึ้น30.34% ต่างชาติ 1,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 693.99% จำนวน 406,853 คน เพิ่มขึ้น 398.17% มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 55.96%

ปัตตานี มีรายได้ท่องเที่ยวรวม 1,468.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.91% จำนวนนักท่องเที่ยว 442,382 คน เพิ่มขึ้น 76.89% แบ่งเป็น คนไทย 1,074.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.23% จำนวนนักท่องเที่ยว 341,890 คน เพิ่มขึ้น 44.65% ชาวต่างชาติ 394.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.039.75% จำนวนนักท่องเที่ยว 100,492 คน เพิ่มขึ้น 632.02% มีอัตราเข้าพักเฉี่ย 48.22%

ยะลามีรายได้ท่องเที่ยวรวม 5,115.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145.97% จำนวนนักท่องเที่ยว 1,657,692 คน เพิ่มขึ้น 57.30% แบ่งเป็น คนไทย 2,342.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.95% จำนวนนักท่องเที่ยว 1,026,501 คน เพิ่มขึ้น14.96% มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 72.13%

นางสาวนวพร ชัวชมเกต ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนราธิวาส กล่าวว่า ปี67 ได้วางแผนตลาดเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ชายแดนใต้ 3 จังหวัด นราธิวาส ปัตตานี ยะลาโดยเน้นกิจกรรม “ฮีลกายฮีลใจ” 4 เส้นทางหลัก คือ 1. เที่ยวธรรมชาติ ป่าเขาไฮไลต์ที่ฮาราบารา และชายหาดทรายชายทะเลหลายแห่ง 2. โบราณสถาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อและศรัทธา มีทั้งมัสยิดวัด สักการะศาลเจ้า 3. วิถีชีวิตสังคมพหุวัฒนธรรม ที่มีคุณค่าทางใจกับผู้คน และ4. ท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน ตอบโจทย์การเดินทางอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เส้นทางที่ 5 อาหารถิ่น ไทยจีน อิสลาม ซึ่งมีเมนูจานเด่นที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเข้าไปนำเสนอกับนานาชาติอย่าง ปลากุเลา ตากใบ ได้ขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพปี65 หรือ ไก่เบตง ยะลา โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

ททท.ได้เน้นประชาสัมพันธ์ส่งเสริมท่องเที่ยว 3 จังหวัด ตามนโยบายรัฐบาลมุ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ตลอด 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน ด้วยสินค้าที่มีจุดขายเด่น 3 ไฮไลต์ ได้แก่ 1.ความงดงามธรรมชาติ ความสดใหม่ ไร้การปรุงแต่ง เดินทางมาท่องเที่ยวช่วงใดก็จะได้เห็นอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปีตรงบริเวณ สกายวอล์ค อัยเยอร์เวง แลนด์มาร์กชมทะเลหมอก กับฆูนุงซีลีปัต จุดชมวิว 360 องศาของอำเภอเบตง ยะลา มีมุมชมทะเลหมอกสวยงามในแต่ละวันจะไม่ซ้ำกัน อากาศเย็นตลอดทั้งปี 2.ความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม กลมกลืนอย่างลงตัวอยู่ในอาหารการกิน โบราณสถาน 3.แฟชั่นผ้าพื้นเมือง บาติก ปาเต๊ะขณะนี้ชุมชนมีดีไซน์ผ้าวางขายคนไทยและนานาชาติ

ขณะเดียวกันก็มีเส้นทางแนะนำท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่นักท่องเที่ยวสายศรัทธาและสายมูเตลูนิยมสูงมากตลอดทั้งปีอีก 5 พิกัดหลัก ประกอบด้วย1.จังหวัดปัตตานี นิยมมาสักการะหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ส่วนใหญ่ชอบมาขอพร เสริมสิริมงคล เพิ่มกำลังกายใจ ศาลเจ้าเล่าเอี๊ยะกง อำเภอสายบุรี ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ อำเภอสุไหงโกลก ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวไทยและมาเลเซียเดินทางเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ 2.จังหวัดนราธิวาส นักท่องเที่ยวชอบมาบูชาเทวสถานองค์พระพิฆเนศ ในอำเภอเมือง รูปองค์และเครื่องแต่งกายความละเอียดอ่อนงดงามมาก มาขอพรความสำเร็จด้านการงานและสิ่งที่ดีในชีวิต และศาลหลักเมืองนราธิวาสช่วงปีใหม่ทางจังหวัดเปิดให้ประชาชนไหว้ขอพรเป็นสิริมงคลด้วย 3.ท่องเที่ยวธรรมชาติคาบเกี่ยวระหว่างนราธิวาสกับยะลา เป็นแหล่งชมนกเงือกกว่า 10 สายพันธุ์ ในพื้นที่ป่าฮาราบาลา แต่ละปีจะจัดงานใหญ่ Amazean Jungle Thailand by UTMB เป็นมหกรรมวิ่งเทรลรายการใหญ่สนามที่สองของเมืองไทย นราธิวาสสู่เบตง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า เสน่ห์ดึงดูดนักวิ่งไทยและนานาชาติจำนวนมากสร้างรายได้เข้าท้องถิ่นคึกคักทุกปี

4. การท่องเที่ยวสังคมพหุวัฒนธรรมผ่านผืนผ้าพื้นเมือง บาติก ปาเต๊ะ ปะลางิง อัตลักษณ์หัตถศิลป์ภาใต้หนึ่งเดียวในยะลา ผ้าจวนตานี และอาหารที่มีความหลากหลายทั้งไทย จีน มุสลิม โรตีชาชัก ไก่เบตง และอีกหลากหลาย และ5.ท่องเที่ยวชุมชนซึ่งมีพื้นที่คนกับป่าอยู่ด้วยกันได้ นำเสนอโดยชุมชนครอบคลุมทั้ง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา เช่น ชุมชนจุฬาภรณ์ 9,10 และ 12 และชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ปัตตานี ได้รับชุมชนท่องเที่ยวดีเด่นด้านการท่องเที่ยว หรือ Tourism Award 2007 เป็นชุมชนที่โดดเด่นด้านการบริหารจัดการเชิงคุณภาพ พร้อมกับกิจกรรมเดินป่าพิชิตยอดเขาสันกาลาคีรี

ผอ.นวพร กล่าวว่า ททท.พร้อมนำสินค้า3จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยจุดขายซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยแหล่งท่องเที่ยวครบทุกมิติพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มได้อย่างหลากหลายตามความชื่นชอบ สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอด 365 วัน เดือนก.พ.ปีนี้ มีไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจจากคนไทยและต่างชาติจองห้องพักเต็มเกิน100 % ได้แก่ ปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” เมื่อ 21-27 ก.พ.67 ดึงดูดนักท่องเที่ยวสายความเชื่อและศรัทธากว่า 30,000 คน สร้างเศรษฐกิจเงินสะพัดเกินกว่า 20 ล้านบาท และท่องเที่ยวตำนานเกี้ยวปักดินหนึ่งเดียวในประเทศไทย ของศาลเจ้าเล่าเอี๊ยะกง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวสายศรัทธาได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน

ขณะนี้ก็ได้ท่องเที่ยวต่อเนื่อง “ปัตตานีที่รักษ์” ล่องเรือรักษ์โลกท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม วันนี้-31 มี.ค.67 ชวนไปลอดอุโมงค์โกงกางอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนชั้นดี ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติและร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรชุมชนร่วม “ปลูกต้นโกงกาง” และ “รับประทานอาหารถิ่น”เพียงซื้อแพ็กเกจ “ชุมชนท่องเที่ยวรอบอ่าวปัตตานี” ที่ร่วมโครงการ 3 ชุมชน ได้แก่ เสน่ห์บางปู สะพานไม้บานา และบูนาดารา รับส่วนลดทันทีมูลค่า 100 บาท จองโดยตรงกับทางชุมชนได้ครั้งละ 40 สิทธิ์ ส่วนเดือนมี.ค.67 ททท.สนับสนุนจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงอีก 2 งานใหญ่ ได้แก่ การแข่งขันนกเขาชะวาเสียงอาเซียน วันที่ 2-3 มี.ค. ที่สวนขวัญเมือง ยะลา และงานเทศกาลอาหารสะอาดรสชาติอร่อยสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศกาลเมืองนครยะลา วันที่ 1-3 มีนาคม นำเสนออาหารถิ่นทุกเมนูอร่อยรสเด็ด ผนวกเข้ากับชมวิถีชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน