สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดียล่าสุดทะลุถึง 152,682 รายรวมติดเชื้อ 12.07 ล้านราย เสียชีวิต 838 ราย รวมเสียชีวิต 169,305 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในหนึ่งวัน นับเป็นการแพร่ระบาดภายในประเทศระลอกสอง
สำหรับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของอินเดีย ล่าสุดได้ฉีดไปแล้วเกือบ 100 ล้านโดส ซึ่งถือเป็นสัดส่วนประชากร 7.1% ขณะที่ตัวเลขการฉีดวัคซีนทั่วโลกเข้า750 ล้านโดสแล้ว โดยอินเดียได้เริ่มประเดิมฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา แต่จำกัด เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าคนงานสุขาภิบาลกลายเป็นชาวอินเดียคนแรกที่ได้รับวัคซีน
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมได้ขยายสิทธิ์การฉีดให้ครอบคลุมผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีและผู้ที่มีอายุระหว่าง 45 – 59 ปีทีมีอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ และขั้นตอนที่สามตั้งแต่ 1 เมษายน พลเเมืองทุกคนที่อายุเกิน 45 ปีมีสิทธิ์ได้รับ
โดยหน่วยงานกำกับดูแลยาของประเทศได้ให้ไฟเขียวแก่วัคซีนสองชนิดซึ่งพัฒนาโดยแอสตราเซเนกา และวัคซีนของ บริษัทภารัต ไบโอเทค (Covaxin) ของอินเดีย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ทางประเทศนิวซีแลนด์ โดย นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ประเทศนิวซีแลนด์ จะงดรับผู้เดินทางจากอินเดียเข้ามายังนิวซีแลนด์เป็นการชั่วคราว โดยนิวซีแลนด์นับเป็นประเทศที่ปลอดเชื้อไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มาเป็นเวลา 40 วัน
มาตรการดังกล่าวจะมีผลครอบคลุมบุคคลซึ่งเคยพำนักอยู่ในอินเดียในช่วง 14 วันย้อนหลัง โดยจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 11-28 เมษายน ซึ่งระหว่างนั้นรัฐบาลนิวซีแลนด์ก็จะเตรียมมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพื่อให้การเดินทางกลับสู่ภาวะปกติ
มาตรการนี้ไม่ได้มีเจตนาพุ่งเป้าไปที่อินเดียอย่างเฉพาะเจาะจง แต่รัฐบาลนิวซีแลนด์กำลังหาวิธีที่จะบริหารจัดการผู้เดินทางซึ่งมาจากประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ ด้วย
