นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือ ว่า สำหรับร่องความกดอากาศที่ทำให้ฝนตกหนักในภาคเหนือตอนบนและตอนล่างส่งผลกระทบเกิดพื้นที่อุทกภัย 7 จังหวัด น้ำหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งทำให้สถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ผ่านไปโดยใช้ระยะเวลาไม่นานนัก ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงได้สั่งการให้เตรียมเครื่องมือทั้งหมดช่วยเหลือ 7 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย และสั่งการให้ทั้งภาคเหนือและอีสานเตรียมความพร้อมในการรับมือและเตรียมเข้าช่วยเหลือประชาชนพร้อม 24 ชั่วโมง เชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ สถานการณ์จะผ่านพ้นไป ขณะเดียวกัน ตนได้สั่งการกรมส่งเสริมการเกษตรไปแล้วให้รีบสำรวจพื้นที่ความเสียหายและรีบรายงานมา เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และเมื่อน้ำลดแล้วเราจึงจะเข้าสำรวจได้อย่างชัดเจนว่าแต่ละพื้นที่มีความเสียหายแค่ไหน ซึ่งเบื้องต้นคือ พื้นที่ที่น้ำเอ่อท่วมและน้ำไหลหลากเข้าพื้นที่ ทั้งตัวเมืองและพื้นที่การเกษตร
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมเรื่องนี้ 24 ชั่วโมง โดยตนได้สั่งการไปยังปศุสัตว์จังหวัดทั้ง 9 เขต ให้เตรียมอาหารแห้ง ยาแห้ง ชุดสัตวแพทย์เคลื่อนที่ รถขนย้ายสัตว์ในแต่ละพื้นที่ และให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้รับรายงานว่า ปศุสัตว์จังหวัดทั้งหมดที่ประสบอุทกภัยได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยมีการนำยาแห้ง อาหารแห้ง เข้าไปให้โดยตรง พร้อมเฝ้าระวังเรื่องโรคระบาดที่จะมีเกิดขึ้นเป็นผลกระทบต่อเนื่อง
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับผลดีของการที่มีฝน อย่างน้อยทำให้เราได้น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ จากการสำรวจพบว่า 4 พันกว่าล้านลูกบาศก์เมตรนั้น จะเป็นน้ำต้นทุนให้กับเกษตรกร ทั้งเรื่องอุปโภค บริโภค รักษาสิ่งแวดล้อม และจะเป็นส่วนสำคัญที่เราได้ตั้งเป้าหมายหลังโควิด-19 ผ่านไป รัฐจะต้องเข้าไปดูแล เพื่อช่วยวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้น น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกษตรกร เราจะพยายามกักเก็บให้ได้มากที่สุด และจากสถิติเมื่อเทียบปีนี้กับปีที่แล้ว ปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งอ่างเก็บน้ำยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก
