กระทรวงอุตสาหกรรม เริ่มย้าย “กากแคดเมียม” ไปฝังกลบที่จ.ตากพรุ่งนี้!

กระทรวงอุตสาหกรรม
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

กระทรวงอุตสาหกรรม ทดสอบย้าย “กากแคดเมียม” กลับไปที่จังหวัดตาก เผยเริ่มจริง 29 เม.ย.2567 พร้อมใช้ตำรวจนำขบวน เพื่อควบคุมความปลอดภัยสูงสุด

  • อุตฯ เผยเริ่มจริง 29 เม.ย.67
  • พร้อมใช้ตำรวจนำขบวน
  • เพื่อควบคุมความปลอดภัยสูงสุด

วันที่ 28 เมษายน 2567 ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมไปฝังกลบที่จังหวัดตาก โดยจะเริ่มทำการขนย้ายในวันที่ 29 เมษายน 2567 และคาดว่า การขนย้ายจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 17 มิถุนายน 2567

โดยช่วงบ่ายของวันที่ 28 เมษายน กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ลงพื้นที่เขตบางซื่อ เพื่อทำการทดสอบการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียม แบบเสมือนจริงทุกขั้น

โดยมีการซ้อนถุงและมัดปากถุง 2 ชั้น (Double Bag) เพื่อป้องกันการรั่วไหล การชั่งน้ำหนักพร้อมทดลองบันทึกระบบ manifest ด้วยการเขียนน้ำหนัก และหมายเลขถุง การเก็บตัวอย่างกากตะกอนตรวจสอบ และดูดฝุ่นใส่ถุงเก็บการขนย้าย

“ขั้นตอนการขนย้าย จะคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดเป็นสำคัญ มีการใช้รถบรรทุก 2 ประเภท คือ รถพ่วง-คอก และ รถเทรลเลอร์-ท้ายเรียบ ที่ได้รับอนุญาตขนส่งวัตถุอันตราย (วอ.8) บรรทุกจำนวน 20 ถุงต่อคัน รวมจะทำการขนย้าย 450 ตันต่อวัน

มีการใช้ระบบติดตาม จีพีเอส และระบบติดตามขนย้ายกากแคดเมียมเฉพาะกิจ (Speciale-Manifest System) ปิดคลุมรถด้วยแผ่นพลาสติกกันน้ำอย่างมิดชิด และให้พนักงานสวมชุดป้องกันและเปลี่ยนชุดป้องกันทุกวัน พร้อมทั้งกำจัดชุดที่ใช้แล้วโดยการฝังกลบอีกด้วย

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า การขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม ไปฝังกลบที่จังหวัดตากซึ่งเป็นแหล่งที่ถูกกักเก็บไว้ตั้งแต่แรกนั้น จะมีการสุ่มตัวอย่างกากแคดเมียมในรถบรรทุก 1 ถุง ต่อ 1 คัน เพื่อส่งวิเคราะห์ตรวจสอบหาองค์ประกอบทางเคมีเพื่อยืนยันความถูกต้อง

ในเบื้องต้นจะทำการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมจากกรุงเทพมหานคร และสมุทรสาคร ไปยังจังหวัดตากก่อน ขณะที่จังหวัดชลบุรี ยังต้องรอกระบวนการทางกฎหมาย โดยการขนย้าย จะใช้เส้นทางสายเอเชีย

โดยจะมีตำรวจทางของแต่ละพื้นที่นำขบวน และมีการส่งต่อเป็นจังหวัดๆ โดยจะหยุดพักเท่าที่จำเป็น ไม่มีการแวะเติมน้ำมัน และมีแผนฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุไว้เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้เมื่อถึงจังหวัดตาก จะนำกากตะกอนแคดเมียมไปเก็บไว้ที่อาคารพักคอย ในพื้นที่โรงงานที่ได้ทำการปูพื้นด้วยดินเหนียวสังเคราะห์ (GCL) แล้ว ในระหว่างที่เร่งปรับปรุงบ่อเก็บกากแคดเมียมให้มั่นคงปลอดภัยตามมาตรการอีไอเอ

โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมตาก และจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมอย่างใกล้ชิดตลอดการดำเนินงาน

ทั้งนี้ วันที่ 30 เมษายน จะมีการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหา และการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน เพื่อหารือเพิ่มเติม เกี่ยวกับการดำเนินการฝังกลบ ให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย

“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงอุตสาหกรรม จัดให้มีการทดสอบการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมเสมือนจริง เพื่อซักซ้อมให้กระบวนการทำงาน ตั้งแต่การซ้อนถุง การมัดถุง การลำเลียงขึ้นรถ

เพื่อให้มั่นใจว่า ในการขนส่งจริงจะไม่มีการรั่วไหลหรือปนเปื้อนของกากสู่สิ่งแวดล้อมในระหว่างการขนย้าย ทั้งตอนขนย้ายจากต้นทางการขนย้ายระหว่างทาง ตลอดจนถึงปลายทางที่จังหวัดตาก โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ของประชาชนเป็นสำคัญ โดยกระทรวงฯ จะแจ้งข้อมูลและสื่อสารกับประชาชน เป็นระยะในช่วงที่มีการขนกากฯ” นายณัฐพล กล่าวไว้

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อวางแผนความปลอดภัยป้องกันอันตรายจากกากแคดเมียมระหว่างขนส่ง พร้อมให้คำแนะนำ การปฏิบัติตัวของประชาชน ผู้ร่วมเดินทางบนท้องถนน ตามเส้นทางการขนกากแคดเมียมจากต้นทางในจังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี ไปยังจังหวัดตาก

โดยให้สังเกตขบวนรถขนกากแคดเมียม และขับขี่ร่วมทางอย่างมีสติ ควรใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด และระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุกับรถขนกากแคดเมียม

ซึ่งอาจจะทำให้ภาชนะที่บรรจุกากแคดเมียมแตก หรือรั่วไหลออกมา จนอาจจะทำให้สัมผัสกับผู้ขับขี่ หรือผู้ร่วมทางเกิดอุบัติเหตุ จนถึงประชาชนทั่วไปที่ร่วมเดินทางได้ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง และมีการปนเปื้อนของกากแคดเมียมออกมา

ดังนั้นผู้ประสบเหตุไม่ควรเข้าไปสัมผัสโดยตรง ควรออกห่างและอยู่ในทิศเหนือลม เพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายเข้าสู่ร่างกาย สวมหน้ากากป้องกัน N95 KN95 หรืออย่างน้อยควรสวมหน้ากากอนามัยและออกห่างทันที ทีมกู้ชีพที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตตามมาตรฐานการกู้ชีพแต่ผู้บาดเจ็บมีการปนเปื้อนกากแคดเมียม ก็ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตามมาตรฐานหรือเท่าที่มี

แล้วดำเนินการด้วยความระมัดระวังสูงกว่าปกติ เพื่อช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุไปก่อน เมื่อจบภารกิจแล้ว ผู้ปฏิบัติงานที่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวไม่ครบถ้วน ต้องเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังและติดตามอาการจากการสัมผัสกากแคดเมียมต่อไป

ส่วนการกู้ภัยที่มีการปนเปื้อน ทีมกู้ภัยควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวตามมาตรฐาน ได้แก่ หน้ากากป้องกันฝุ่นโลหะ แว่นตา ถุงมือ เสื้อกาวน์คลุมทั้งตัวและสวมรองเท้าบู๊ต ก่อนเข้า ปฏิบัติการกู้ภัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง https://cadmium.industry.go.th/web/

https://thejournalistclub.com/cadmium-news-14042024/257395/