หวั่นโควิดระบาดรอบ2 รุนแรง ดาวโจนส์ร่วง 457 จุด

  • แพทย์ใหญทำเนียบขาวเตือนรัฐต่างๆจะเผชิญกับผลกระทบร้ายแรงหากเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลา
  • นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มได้ที่รับผลดีจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์-หุ้นอุตสาหกรรม
  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย.ต่ำสุดตั้งแต่ปี 51

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากนายแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานของทำเนียบขาวเตือนว่า ไวรัสโควิด-19 อาจแพร่ระบาดเป็นรอบที่สองในสหรัฐ หากมีการเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 12 พ.ค. ที่ 23,764.78 จุด ลดลง 457.21 จุด หรือ -1.89% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,870.12 จุด ลดลง 60.20 จุด หรือ -2.05% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,002.55 จุด ลดลง 189.79 จุด หรือ -2.06%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงในแดนลบ จากในช่วงแรกที่อยู่ในแดนบวก หลังจากนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว แถลงต่อคณะกรรมาธิการสาธารณสุขประจำวุฒิสภาสหรัฐว่า รัฐต่างๆ ในสหรัฐจะเผชิญกับผลกระทบร้ายแรงตามมา หากมีการเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด

“สิ่งที่ผมกังวลก็คือว่า ในพื้นที่บางแห่ง เมืองบางเมือง และรัฐบางรัฐ กำลังมองข้ามจุดอันตรายและรีบเปิดเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร โดยไม่คำนึงถึงความสามารถในการรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ การเร่งรีบเช่นนี้จะทำให้เราเริ่มเห็นเค้าลางของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ และผลที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น อาจร้ายแรงอย่างมาก”

นายแพทย์ฟอซียังเตือนว่า “มีความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดรอบที่สองจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงนี้ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดจนไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความพยายามในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ”

หุ้นกลุ่มได้ที่รับผลดีจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ร่วงลงทันที ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมลดลงเช่นกัน โดยหุ้นโบอิ้ง ดิ่งลง 2.86% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 3.4% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ร่วงลง 3.07% หุ้น 3M ร่วงลง 2.9% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 1.1% หุ้นฮันนีเวลล์ ดิ่งลง 4.98% ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความผันผวนในตลาดการเงิน

โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงตามทิศทางอัตราตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.14% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 3.88% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.25% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 3.5% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 3.2% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2.99% หุ้นแบล็คร็อค ทรุดตัวลง 7.9%

อย่างไรก็ตาม หุ้น GrubHub ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสั่งอาหารทางออนไลน์ ทะยานขึ้น 29% หลังจากมีรายงานว่า อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ กำลังเจรจาเพื่อกิจการ GrubHub

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจยังส่งสัญญาณแย่ลง โดยเฉพาะกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเดือนธ.ค.2551 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค.