ดาวโจนส์ร่วงกว่า 130 จุด จับตาผลประกอบการ-ทิศทางดอกเบี้ย

  • นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อหาทิศทางเศรษฐกิจ
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น คาดทิศทางดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง
  • ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวในแดนลบ นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในสัปดาห์นี้ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย และตัวเลขเศรษฐกิจที่แสดงทิศทางเงินเฟ้อ


เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 38,365.94 จุด ลดลง 137.75 จุด หรือ 0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 5,060.39 จุด ลดลง 10.16 จุด หรือ 0.20% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,719.12 จุด เพิ่มขึ้น 22.48 จุด หรือ 0.14%


ทั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ที่จะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ได้แก่ อินเทล คอร์ป, ไมโครซอฟท์ คอร์ป, แอปเปิ้ล อิงค์, และอัลฟาเบท อิงค์ ขณะที่เมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจำนวน 20% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2567 แล้ว ซึ่งบริษัท 76% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์


หุ้นโบอิ้งปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังเปิดเผยรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 ขณะที่ตัวเลขขาดทุนต่ำกว่าคาด


ทั้งนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ 1.657 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.623 หมื่นล้านดอลลาร์นอกจากนี้ บริษัทมีตัวเลขขาดทุน 1.13 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.76 ดอลลาร์/หุ้น


ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง


นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.5% ในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือนก.พ.


ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือนก.พ.


ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ.


ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ.


ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวขึ้น โดยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


ส่วนจำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 6% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 766,550 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 7.24% จากระดับ 7.13% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้