สวนดุสิตโพล เผย คนไทย กังวัลสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน”​ กระทบค่าครองชีพ

  • สนใจติดตามข่าวสงคราม รัสเซีย-ยูเครน
  • ติดตามข่าวจากสื่อโซเชียลมากที่สุด
  • ห่วงราคาพลังงาน ราคาทองคำ ค่าครองชีพ ปรับเพิ่มสูงขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,143 คน ระหว่างวันที่ 7-10 มีนาคม 2565 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สนใจติดตามข่าวสงคราม รัสเซีย-ยูเครน โดยค่อนข้างสนใจ ร้อยละ 52.40 สนใจมาก ร้อยละ 30.71 ติดตามข่าวจากสื่อโซเชียลมากที่สุด (ไลน์ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป ฯลฯ) ร้อยละ 84.89 รองลงมาคือ โทรทัศน์ ร้อยละ 59.40 โดยค่อนข้างรู้สึกกังวลเกี่ยวกับ สงคราม รัสเซีย-ยูเครน ร้อยละ 53.81 กังวลมาก ร้อยละ 21.34 ผลกระทบต่อประเทศไทย คือ น้ำมันแพงขึ้น ร้อยละ 88.32 ค่าครองชีพสูงขึ้น สินค้าแพงขึ้น ร้อยละ 63.39 มองว่าไทยควรมีบทบาทต่อสงครามครั้งนี้ด้วยการเตรียมพร้อมรับมือจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ร้อยละ 75.40 รองลงมาคือ แสดงความห่วงใยต่อผู้ที่กำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม ร้อยละ 66.78 ทั้งนี้มองว่าทางออกคือ ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศควรเจรจาตกลงกันอีกครั้ง ร้อยละ 57.46 และจากกรณี ประเทศไทยร่วมโหวตเห็นด้วยให้รัสเซียถอนทัพจากยูเครนนั้นมองว่าอยากให้สงครามจบลงโดยเร็ว ร้อยละ 56.59 เหมาะสม เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม ร้อยละ 51.46

ประชาชนสนใจติดตามข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครนจากสื่อโซเชียลเป็นส่วนใหญ่ และรู้สึกวิตกกังวลต่อสงครามครั้งนี้ ถึงแม้สมรภูมิรบจะไกลจากประเทศไทย แต่ผลกระทบกลับส่งผลถึงไทยในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะเป็นราคาพลังงาน ราคาทองคำ รวมไปถึงค่าครองชีพที่กำลังปรับเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนจึงอยากให้ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับมือ และแสดงท่าทีอย่างเหมาะสม คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม รวมถึงตั้งรับแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิรานุช โสภา อาจารย์ประจำหลักสูตรสหวิทยาการการท่องเที่ยว โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน เกิดจากประวัติศาสตร์ที่มีความขัดแย้งภายในของยูเครนที่มีทั้งฝ่ายโปรรัสเซียและฝ่าย โปรตะวันตก การที่ NATO ต้องการให้ยูเครนเป็นสมาชิกทำให้รัสเซียไม่พอใจ ไทยต้องพบผลกระทบอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะสูงขึ้นและกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชน แม้ว่าไทยจะมีสัดส่วนการส่งออกนำเข้าสินค้าและการลงทุนจากรัสเซียและยูเครนค่อนข้างน้อย แต่ด้านการท่องเที่ยวจะกระทบต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยอยู่บ้าง เนื่องจากไทยมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวรัสเซียในประเทศ

ทั้งนี้สงครามส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกแบบนี้ย่อมไม่มีประเทศใดต้องการให้ยืดเยื้อ แม้แต่ประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซียก็ได้รับผลกระทบด้วย ดังนั้น การเจรจาคือทางออกที่ดีที่สุด ส่วนการแสดงท่าทีของไทยบนเวทีโลกก็ทำหน้าที่ได้เหมาะสม เนื่องจากการกระทำของรัสเซียต่อการรุกรานยูเครนเป็นการผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อรัสเซียรวมถึงยูเครนด้วย สร้างสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจ แสดงบทบาทต่ออาเซียนรวมถึงเวทีโลกอย่างมีศักดิ์ศรีและไม่มีความขัดแย้งใด ๆ กับนานาชาติ