นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ราคายางพาราวานนี้ (13 ส.ค.) ปรับตัวสูงสุดในรอบปี โดยราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 ตลาดกลางยางพาราสงขลาปิดที่ 48.70 บาทต่อกิโลกรัม จากเคยลดลงไปต่ำสุดกิโลกรัมละ 39 บาทในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก ล่าสุดจีนผู้รับซื้อยางรายใหญ่ที่สุดของไทยกลับมาดำเนินการภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ใกล้เคียงกับภาวะปกติแล้ว จึงเร่งส่งมอบยางที่ตกลงซื้อขายกันล่วงหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้วัตถุดิบจากปิโตรเลี่ยมลดลง ผู้ประกอบการหันมาใช้ยางพารามากขึ้น
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย พฤติกรรมของคนไทยที่ปรับเปลี่ยนตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้แทนรถสาธารณะ ส่งผลให้มีการใช้ล้อยางมากขึ้น มาตรการสำคัญอีกประการ คือ การเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราของหน่วยงานรัฐตามนโยบายรัฐบาล เช่น การนำยางพาราไปทำเสาหลักนำทางและแผ่นยางครอบกำแพงคอนกรีต (แบริเออร์) ของกระทรวงคมนาคม
ส่วนโครงการประกันรายได้ยางพาราระยะ 2 นั้น คาดว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า หากได้รับความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบถ้วน ซึ่งการที่ราคายางพาราในตลาดปรับสูงขึ้นจะทำให้ส่วนต่างของราคาประกันรายได้ลดลง ประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้มาก
