รับซื้อใบอ้อยสด ผลิตพลังงานทดแทนตันละ 200 – 1,500บาท

  • กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ เอสซีจี หนุนชาวไร่อ้อยเลิกเผา
  • ลดฝุ่น สร้างเงินหมุนเวียน 150 ล้านบาทต่อปี
  • นำร่องปีนี้ใน4พื้นที่เป้าหมาย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย  (สอน.) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู )ร่วมกับบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัดหรือ ซีแพค  ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ในการรับซื้อใบและยอดอ้อยสด เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เพื่อลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ และลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน  โดยจะร่วมกันดำเนินงานระยะเวลา 3 ปี                                             

”ซีแพค จะดำเนินการรับซื้อใบอ้อยจากพื้นที่เป้าหมาย ในราคา 200 – 1,500 บาทต่อตันอ้อย ตามปริมาณและคุณภาพที่เหมาะสม ณ จุดรับซื้อที่กำหนด เช่น เศษใบอ้อย หรือใบอ้อยสดที่อัดมาแล้ว สร้างรายได้ในระบบอุตสาหกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้ปีละ150 ล้านบาทพร้อมทั้งตั้งโรงงานแปรรูปใบอ้อยเป็นเชื้อเพลิงทดแทน และดำเนินการขนส่งใบอ้อยที่แปรรูปเป็นเชื้อเพลิงทดแทนแล้วและนำไปใช้งาน คาดว่า จะสามารถรวบรวมเศษวัสดุเหลือใช้ จากไร่อ้อยได้ปีละ 210,000 ตัน”

ขณะเดียวกันสอน.ก็ จะประสานเกษตรกรชาวไร่อ้อยหรือผู้ประกอบการที่รวบรวมใบอ้อยในพื้นที่เป้าหมาย 4 แหล่งเพาะปลูก  ได้แก่ อำเภอท่าหลวง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี รวม 17,000 ราย ในการจัดเตรียมพื้นที่กองเก็บก้อนม้วนเพื่อให้สามารถส่งโรงงานแปรรูป คาดว่าจะสามารถลดพื้นที่การเผาอ้อยได้ 1,713,208 ไร่

นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย มีนโยบายส่งเสริมศักยภาพการผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศไทย และมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากมลพิษจากการเผาอ้อยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง และควันที่เกิดจากการเผาอ้อย อีกทั้งยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย โดย ซีแพค จะเข้ามารับซื้อเศษวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากการทำไร่อ้อย เช่น ยอดและใบอ้อย เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงทดแทนในการผลิตปูนซีเมนต์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย และอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย   ให้มีความมั่นคงทางด้านพลังงาน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

นายปัญญา โสภาศรีพันธ์ ผู้บริหารซีแพค กล่าวว่า  ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย มาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด สร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5  และภาวะโลกร้อนจากการเผาอ้อย ซึ่งการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2564 – 31 มี.ค. 2566  และมีแผนจะขยายจุดรับซื้อหน้าโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จซีแพคที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรรายเล็กและชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน สำหรับเกษตรกรที่สนใจ  เข้าร่วมโครงการหรือสอบถามรายละเอียด หมายเลขโทรศัพท์ 093 542 4594