ตะลุยตรวจร้านขายอัญมณีและเครื่องประดับ

กรมการค้าภายใน ร่วมกับ สคบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบผู้จำหน่ายอัญมณีเจียระไน และเครื่องประดับอัญมณีเจียระไนในพื้นที่กรุงเทพฯ ป้องกันผู้บริโภค นักท่องเที่ยวถูกเอาเปรียบ ย้ำผู้ประกอบการต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อ

  • กรมการค้าภายในจับมือสคบ.เดินหน้าป้องปรามผู้ค้า
  • หวังไม่ให้ขายสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค-นักท่องเที่ยว
  • ย้ำต้องปิดป้ายราคาให้ชัดลั่นพบใครฝ่าฝืนโทษหนัก

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค.67 กรม ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตำรวจท่องเที่ยว สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายอัญมณีเจียระไน และเครื่องประดับอัญมณีเจียระไน เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้ค้าฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในลักษณะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยเปิดประเทศหลังจากโควิด ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวไทย และซื้อเครื่องประดับ อธิบดีกรมการค้าภายในจึงมอบหมายให้สายตรวจพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในส่วนของกรมได้กำกับดูแลให้ผู้ประกอบการ ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน รวมถึงป้องปรามมิให้ฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผลอันควร เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า

“จากการนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการบริเวณพื้นที่ในกรุงเทพฯ พบว่า ผู้ค้าให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมาย ยังไม่พบพฤติกรรมจำหน่ายสินค้าที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค อีกทั้งราคาจำหน่ายก็มีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพ รูปแบบ และขนาดของอัญมณีและเครื่องประดับจึงแนะนำให้ผู้บริโภค เปรียบเทียบราคาและคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า”

อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรม โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ให้ความเป็นธรรม หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ