“สุริยะ” พร้อมควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ลั่น! ทำงานทันที ไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด และมั่นใจว่าไม่น่ามีปัญหาในการทำงาน
- ลั่น! ทำงานทันที
- ไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด
- มั่นใจว่าไม่น่ามีปัญหาในการทำงาน
วันที่ 27 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 17.45 น. นายสุริยะ จึงรึงเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลัง ที่มีรายชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี อีกตำแหน่งนั้น ในเรื่องนี้ตนพร้อมที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
แม้ว่าปัจจุบันจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแผลกเพราะที่ผ่านมาในอดีตเมื่อปี 48 ตนก็เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบ
รมว.อุตสาหกรรม มั่นใจว่าไม่น่ามีปัญหาในการทำงาน ทำงานได้ไม่มีปัญหา เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ ส่วนที่ว่าหนักใจหรือไม่ เพราะความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น
ขณะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมงานที่กำกับดูแลก็มากอยู่แล้วนั้น ในเรื่องนี้ สามารถตอบได้เลยว่าไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด พร้อมทำงานอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่จะกำกับดูแลจะประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม ,กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,การกีฬาแห่งประเทศไทย,
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภสพ(สสส.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้นายสุริยะ มีผลงานโดดเด่น เห็นได้จากกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินโครงการ และนโยบายต่าง ๆ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมถึงการให้บริการระบบคมนาคมขนส่ง ในทุกมิติ เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับนโยบาย Quick win ของรัฐบาล
และในช่วงระยะเวลา 99 วันที่ผ่านมา มี 9 โครงการเด่นที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการ และผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม อาทิ มาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
การเปิดใช้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินในปัจจุบัน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว รวมถึงรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เร่งรัดการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) โดยเตรียมเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรี 2 เส้นทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 คือ มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) ช่วงปากช่อง – ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77 กม. และมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) ช่วงนครปฐม ฝั่งตะวันตก – กาญจนบุรี ระยะทาง 51 กม. และเปิดให้บริการใช้งานฟรีต่อเนื่องจนกว่าด่านเก็บค่าผ่านทางจะแล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง
การพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ โดยการยกมาตรฐานและปลอดภัยท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นโดยการให้บริการด้วยระบบตั๋วร่วม พร้อมทั้งออกแบบรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท โดยมีแผนพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือ (ระบบปิด) ทั้งหมด 29 ท่า
ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงเสร็จแล้ว จำนวน 9 ท่า อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้าง จำนวน 5 ท่า และในส่วนที่เหลืออีกจำนวน 15 ท่า จะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องต่อไป
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า วันนี้ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ ในการปรับคณะรัฐมนตรีรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ครั้งล่าสุดแล้ว (ครม.เศรษฐา 1/1) มีรายชื่อดังนี้
พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย
1.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง
2.สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข
3.เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
4.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม
5.พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
6.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง
7.จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
8.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
9.พิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พรรครวมไทยสร้างชาติ
1.สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์
พรรคพลังประชารัฐ
1.อรรถกร ศิริลัทธยากร รมช. เกษตรและสหกรณ์
ขณะที่ ปานปรีย์ พหิทธานุกร ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ เท่านั้น (เดิมเป็นรองนายกฯ ด้วย)
ก่อนจะมีการเผยแพร่เอกสารจาก ปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอ ‘ลาออก’ จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง https://thejournalistclub.com/politics-economics-news/258610/ https://ratchakitcha.soc.go.th/
