ดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยกว่า 18 จุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มร่วง

. นักลงทุนหันกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโยยีที่ราคาลดลงก่อนหหน้า
.หลังได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เริ่มชะลอลง
.เฟด นิวยอร์ก เผยดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเดือน ก.พ.ลดลงครั้งแรก สวนนักวิเคราะห์คาดเพิ่ม

เมื่อเวลา 22.20 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,646.63 จุด เพิ่มขึ้น 18.66 จุด หรือ +0.06% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,372.48 จุด พุ่งขึ้นแรง 157.24 จุด หรือ +1.19% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,935.99 จุด เพิ่มขึ้น 22.89 จุด หรือ +0.58%

นักลงทุนหันกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโยยีที่ราคาลดลงก่อนหหน้า หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงวันนี้ หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.7% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2.5%

นักลงทุนแห่ซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตุรกี หลังจากค่าเงินลีราของตุรกีทรุดตัวลงอย่างหนักจากการที่นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี สั่งปลดนายนาซี แอกบาล ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกี ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนายแอกบาลประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับ 19% เมื่อวันศุกร์เพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสกัดการร่วงลงของค่าเงินลีรา แม้ว่าปธน.เออร์โดกันได้เรียกร้องมาโดยตลอดให้ธนาคารกลางตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลในคืนนี้ โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในการประชุมธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS)

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -1.09 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.68 จากระดับ +0.75 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของภาคการผลิต, ยอดขายบ้าน และการบริโภค

สอดคล้องกับสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยดิ่งลง 6.6% สู่ระดับ 6.22 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งสูง, สต็อกบ้านในระดับต่ำ, ราคาวัสดุสร้างบ้านที่พุ่งขึ้น รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่สต็อกบ้านในตลาดลดลง 29.5% สู่ระดับ 1.03 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้านราคาเฉลี่ยของบ้านพุ่งขึ้น 15.8% สู่ระดับ 313,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนก.พ.