ดาวโจนส์ยืนแดนบวกได้ ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 40 จุด จับตาทิศทางดอกเบี้ย-การฟื้นเศรษฐกิจ

.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังประธานเฟดยืนยันเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งรับมือการขึ้นดอกเบี้ยได้
.โพลล์รอยเตอร์ระบุนักวิเคราะห์คาดเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ค.
.ตลาดจับตารประธานาธิบดีไบเดน ระงับการจัดเก็บภาษีเชื้อเพลิงเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงในสหรัฐฯ

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,572.84 จุด เพิ่มขึ้น
42.59 จุด หรือ +0.14% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,164.06 จุด เพิ่มขึ้น 94.76 จุด หรือ +0.86% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,782.62 จุด เพิ่มขึ้น 17.83 จุด หรือ +0.47%

ดาวโจนส์ยังสามารถยืนในแดนบวกได้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยยืนยันว่าเฟดมีความสามารถในการสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

“เฟดมีทั้งเครื่องมือที่เราต้องการ และมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาสำหรับครัวเรือนและภาคธุรกิจของชาวอเมริกัน ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่น่าพึงพอใจ โดยมีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ขณะที่อุปสงค์อยู่ในระดับสูง” นายพาวเวลกล่าว

ทั้งนี้ ผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ค. โดยผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์ราว 3 ใน 4 ที่ถูกสำรวจ หรือ 67 จาก 91 ราย คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. หลังจากปรับขึ้น 0.75% เช่นกันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537

ตลาดจับตาทิศทางราคาน้ำมัน หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมเสนอให้มีการระงับการจัดเก็บภาษีเชื้อเพลิงเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงในสหรัฐ โดยได้เตรียมทำการประกาศในวันนี้เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย โดยเขาจะเรียกร้องสภาคองเกรสให้การอนุมัติต่อการระงับการจัดเก็บภาษีรัฐบาลกลางสำหรับน้ำมันเบนซินเป็นเวลา 3 เดือน