.ตลาดติตตามผลการประชุมนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 15-16 มิ.ย.นี้
. นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยรและเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามกำหนดเดิม
.มีแรงขายหุ้นลดความเสี่ยงในหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากการลดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ34,318.96 จุด ลดลง 160.64 จุด หรือ -0.47% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,102.83 จุด เพิ่มขึ้น 33.40 จุด หรือ +0.24% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,240.73 จุด ลดลง 6.71 จุด หรือ -0.16%
นักลงทุนทยอยขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง โดยยังมีความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยแม้ว่าในการประชุมวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ยังไม่ปรับนโยบายการเงินในครั้งนี้ แต่มีสัญญาณการปรับลดการผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิ.ย นักลงทุนจับตาการปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ย, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราว่างงาน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวถ้อยแถลงหลังการประชุมในวันพุธ
นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และเงินเฟ้อที่ขยับขึ้น ทำให้คาดว่าเฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. และจะเริ่มดำเนินการปรับลด QE ในเดือนธ.ค.หรือต้นปีหน้า ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566
โดยคาดว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาส่งสัญญาณให้ตลาดการเงินเตรียมพร้อมรับการถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก่อนหน้านี้
