ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นกว่า 200 จุด มองภาพรวมเศรษฐกิจ สดใส

.นักลงทุนกลับมาซื้อ ดันดัชนีหุ้นเกือบทุกกลุ่มในตลาดปรับขึ้น
.ตลาดคาดภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาสแรกสหรัฐขยายตัวดีต่อเนื่อง
.จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ และการเปิดเผยผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกในสัปดาห์นี้

เมื่อเวลา 21.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,427.22 จุด เพิ่มขึ้น
219.38 จุด หรือ +0.64% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,663.22 จุด เพิ่มขึ้น 192.23 จุด หรือ +1.43%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,200.44 จุด เพิ่มขึ้น 44.58 จุด หรือ +1.07%

ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มธนาคาร รวมทั้ง หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และธุรกิจเรือสำราญต่างปรับตัวขึ้น แม้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นเช่นกันตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น

ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐยังเป็นการปรับตัวดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 68.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 63.5 ในเดือนเม.ย.

นักลงทุนคาดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์จะออกมาในทิศทางที่ดี

โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยวันนี้ว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.24 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.20 จากระดับ 1.71 ในเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของการบริโภค ขณะที่การจ้างงานชะลอตัวลง

อย่างไรก็ตาม ดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นบวกยังบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้ม ขณะที่ดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นลบจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 38 รายการปรับตัวลงในเดือนเม.ย. ขณะที่ 47 รายการมีค่าเป็นบวก

นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทกลุ่มค้าปลีกหลายแห่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้