นายกฯเศรษฐา จัดให้จับคู่ 1กีฬา1รัฐวิสาหกิจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ตามนโยบายโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา

นายกฯเศรษฐา จัดให้ ฟื้นจับคู่สนับสนุน 1กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ลงขันรวมไว้ส่วนกลาง 1,640 ล้านบาท 4 ปี ให้ 90 สมาคมกีฬา จัดพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานในความร่วมมือ สนับสนุนด้านกีฬาของประเทศให้พัฒนาต่อไป ย้ำดูแลวงการกีฬาเต็มความสามารถ

  • ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่
  • จะไม่ให้วงการกีฬาต้องขาดงบประมาณ
  • จะดูแลวงการกีฬาอย่างเต็มความสามารถ
  • เพื่อให้เกิดความสมดุลกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

วันนี้ (29 มี.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ตามนโยบายโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา โดยได้รวบรวมเงินจากรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน 38 หน่วยงาน รวมไว้ส่วนกลาง 1,640 ล้านบาท 4 ปี ให้กับ 87สมาคมกีฬา มีการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพที่จะนัดสมาคมมาหารือร่วมกันในการขอรับจัดสรรงบประมาณจากส่วนนี้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชื่นชอบกีฬาอย่างมาก รวมถึงให้ความสำคัญกับกีฬาและเข้าใจถึงหัวใจของคนรักกีฬา

“เรื่องกีฬานั้น รัฐบาลนี้และคณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญและให้ความสนใจ ทีมฟุตบอลไทยยังมีสิทธิที่จะเข้ารอบฟุตบอลโลก2026 สิ่งสำคัญคือเสียงเชียร์ที่กระหึ่ม และรอยยิ้มบนใบหน้าของคนไทย อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกวงการกีฬาเช่นกัน ทั้งนี้การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ณ ประเทศฝรั่งเศส ก็กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นการที่เรามาอยู่ที่นี่จึงถือเป็นเวลาที่เหมาะสม และการที่สมาคมกีฬาต่าง ๆ ได้รับการอุดหนุนจากรัฐวิสาหกิจและเอกชน จะทำให้อย่างน้อยในขณะนี้เราสามารถวางแผนของประเทศไทยได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ตามนโยบายโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา

นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และคณะทำงาน จะต้องทำงานด้วยความโปร่งใสและมีความเป็นธรรมในการที่จะคัดเลือก รวมถึงการเข้าไปดูแลเยาวชนต่าง ๆ เพื่อให้มีพื้นที่ในการออกกำลังกายโดยไม่ไปหมกมุ่นกับอบายมุข สำหรับงบประมาณสนับสนุนด้านการกีฬา ได้รับทราบจากผู้ที่อยู่ในวงการด้านกีฬาว่างบประมาณ ที่ได้รับการสนับสนุนจะลดน้อยลงไปทุก ๆ ปี

แต่ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่จะไม่ให้วงการกีฬาต้องขาดงบประมาณ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยจะดูแลวงการกีฬาอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เกิดความสมดุลกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณถูกต้องปราศจากการทุจริตประพฤติมิชอบ

นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ตามนโยบายโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา

อย่างไรก็ตามความสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องเงินอัดฉีดและงบประมาณอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรื่องของนโยบายก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเป็นนักกีฬามีช่วงอายุที่จำกัด ซึ่งสิ่งที่นักกีฬาทุกคนมีความกังวลคือเรื่องของอนาคต ดังนั้นเราต้องดูแลบุคลากรที่ทำชื่อเสียงมาให้แก่ประเทศชาติ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล

ขณะเดียวกันภาคเอกชนได้ช่วยกันอย่างมากในเรื่องการจ้างผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสให้มาทำงานด้วยในตำแหน่งหน้าที่ที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของหน่วยงานรัฐยังสามารถที่จะทำเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้ ทั้งนี้การดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้ก็เพื่อให้นักกีฬาได้มีความสบายใจในฐานะเป็นตัวแทนประเทศชาติที่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ให้ธงไตรรงค์ไปโบกสะบัดทั่วโลก เมื่อหมดหน้าที่การเป็นนักกีฬาแล้ว นักกีฬาเหล่านี้สามารถมีการงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จึงต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวง ทบวงกรมทั้งหลายที่ต้องมาพิจารณาในการที่จะต้องจ้างบุคลคลเหล่านี้เข้ามาทำงาน

นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ตามนโยบายโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา