สงกรานต์ปี2567 ที่สุดของที่สุด “มหาสงกรานต์”

สงกรานต์ปี2567 มหาสงกรานต์ เย็นทั่วหล้า UNESCO Songkran Thailand water festival
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ที่หัวหิน

เห็นจะต้องยอมรับล่ะว่า สงกรานต์ปี2567 พีคสุด พีคจนได้ชื่อว่า เป็นปีแห่ง มหาสงกรานต์ ที่รวมเอาผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติทั้งในประเทศไทย และที่มาจากต่างประเทศทั่วโลก หลั่งไหลเดินทางเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างเนืองแน่น ทั่วทุกหัวถนน

ไม่ว่าจะเป็นถนนข้าวสาร ข้าวปุ้น ข้าวเหนียว ข้าวหลาม หรือ ข้าวแช่ โดยเฉพาะ

ที่ท้องสนามหลวงที่มีฉากหลังเป็นพระบรมมหาราชวัง…สนุกจนย่าต้องแอบไป ตื้ด ตื้ด กับเขาด้วย ว่างั้นเหอะ!

สงกรานต์ปี2567 มหาสงกรานต์ เย็นทั่วหล้า UNESCO Songkran Thailand water festival
สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

“คุณกลาง” ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ลูกสาวตัดจี๊ดของ​“ท่านปลัดสมพล”บอกว่า ความเหนื่อย มีอันมลายหายไปสิ้น เมื่อเธอได้เห็นผู้คนจำนวนมากล้นทะลัก อยู่บนถนนทุกสายทั้งกรุงเทพฯ เลยไปถึงเมืองใหญ่ และเมืองรองในทุกหย่อมหญ้า ของประเทศไทย

นั่นเป็นเพราะรัฐบาลวางแผนงาน และ จัดกระบวนการทางความคิดมาตั้งแต่ต้น ว่า จะจัดงาน Festival ใหญ่ๆในประเทศไทยในปีนี้ และปีต่อๆไปให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศกลับมาคึกคัก และทำให้คนไทยกลับมามีงานมีรายได้กันจริงๆจังๆอีกครั้ง

สงกรานต์ปี2567 มหาสงกรานต์ เย็นทั่วหล้า UNESCO Songkran Thailand water festival
การเตรียมงานสงกรานต์ที่สนามหลวง

ความสำเร็จของ สงกรานต์ปี2567 นี้ มาจากการที่กระทรวงวัฒนธรรม และททท.ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่ จากหน่วยราชการ รวมถึงภาคเอกชนจำนวนมาก จนทำให้เกิดเทศกาล มหาสงกรานต์ ที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของงานเทศกาลโลกสำเร็จ

สิริรวมผู้คนทุก Gen ที่เข้ามาร่วมเล่นสงกรานต์ในประเทศไทยด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ความสนุกสนาน และความไม่ถือตน หรือ ถือเพศถือวัยในช่วงเวลาสั้นๆนับแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 21 เมษายน ประมาณการณ์ได้ว่า น่าจะมีมากถึง 800, 000 คน

เป็นชาวต่างชาติจาก เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อเมริกา และ จากเอเชียที่ตั้งใจเดินทางเข้ามาเล่นสงกรานต์กับชาวไทยทั่วประเทศ 90,000 คน

ยังไม่นับต่างชาติ ที่ต้องการเดินทาง มาพักผ่อน ในช่วงหน้าร้อน ของไทยอีกมาก กระทั่งดันยอดนักท่องเที่ยว เข้าราชอาณาจักรไทย ในไตรมาสแรกไปแล้ว 11 ล้านคน นับเฉพาะรายได้ที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ได้เกือบ 3,000 ล้านบา

บรรรยากาศสงกรานต์ปี2567

ความสำเร็จนี้ ยังมาจากการจุดประกาย ของกระทรวงวัฒนธรรม หลังจากที่ได้ส่งเรื่องให้ องค์การ UNESCO พิจารณาให้เทศกาล สงกรานต์ ของประเทศไทย เป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติ กระทั่ง UNESCO ประกาศขึ้นทะเบียนให้ประเทศไทย ในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2566

UNESCO ยังทำสารคดี เผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกที่สุดในโลก เมื่อคนไทยทั้งประเทศ ออกมาช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ในการจัดงานเทศกาลนี้

ทุกปี เทศกาลนี้จะเริ่มขึ้น ในช่วงกลางเดือนเมษายน ระหว่างฤดูแล้งหลังการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ก็จะมีการเฉลิมฉลองของผู้คนมากมาย จากการรวมตัวกันของครอบครัว แล้วสร้างพันธมิตรในชุมชน เชื่อมโยงวัด พระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ เข้าด้วยกัน โดยการสรงน้ำพระพุทธรูป ให้เกียรติแก่บรรพบุรุษ กับ ผู้อาวุโสด้วยประเพณีรดน้ำเพื่อขออภัย และขอพร อันเป็นสัญญลักษณ์ของการชำระล้าง ให้เกียรติ และมีความปรารถนาดีต่อกัน

คำว่าสงกรานต์มาจาก ภาษาสันสกฤต แปลว่าก้าวเข้าไปมีความหมายอ้างอิงถึงการเคลื่อนย้ายของดวงอาทิตย์ ดวงใหม่ สู่กลุ่มดาวราศีเมษ ราศีแรกของศาสตร์นี้ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณการเริ่มต้น ตามประเพณีไทยจึงถือเอาวัน สงกรานต์ เป็นวันปีใหม่ วันแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่ และชำระล้างสิ่งไม่ดีในปีเก่า ให้หมดไป

หลังสรงน้ำพระ และ พรมน้ำลงบนกระดูกขี้เถ้า ของบรรพบุรุษ ไปจนถึงรดน้ำขอพรผู้ใหญ่แล้ว คนไทยก็จะกวาดลานวัด ลานบ้าน ปิดถนน และเล่นสาดน้ำกันเอง ด้วยความมีชีวิตชีวา

ในวันสงกรานต์นี้ คนไทยจึงไม่ถือโทษโกรธกัน ในการเล่นสาดน้ำใส่กัน แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน และแม้จะต่างวัย ต่างเชื้อชาติกันก็ตาม ทุกคนในประเทศนี้ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ ที่ UNESCO จัดว่า แปลกที่สุดในโลก!

เห็นความสุขที่เอ่อล้นออกมาในช่วงเทศกาล มหาสงกรานต์ ปีนี้แล้ว ย่าอยากให้ทุกวัน เป็นวันสงกรานต์เสียจริงๆ พับผ่าเหอะ!!

คุณย่าขาซิ่ง

ภาพจาก X Srettha tavisin@tavisin

S2O เทศกาลดนตรีสงกรานต์ระดับโลกจัดที่ฮ่องกง 8-9 มิ.ย.นี้