“ทักษิณ” ติดปีก ส.ท.ร. ศาลรธน.ตีตก 6 คำร้อง

ทักษิณ ศาลรัฐธรรมนูญ
“ทักษิณ” ติดปีก ส.ท.ร. ศาลรธน.ตีตก 6 คำร้อง


ในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ตีตกคำร้องทุกข้อที่หวังจะหยุดการทำงานของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ด้วยการล้มล้างอดีตนายกฯ ทักษิณ ผู้พ่อไม่ให้มีที่ยืนในสังคมไทย หรือในเวทีการเมืองไทยอีกต่อไป

คำร้อง หรือ ข้อกล่าวหาที่กลายเป็นเผือกร้อนโยนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยครานี้เป็นของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษรที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามมาตรา 49 ด้วยข้อกล่าวอ้างว่า ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 22 ..ที่ผ่านมา และ มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามที่นายธีรยุทธ ร้องไว้ทั้ง 6 ประเด็น

ประเด็นแรก กล่าวหา ทักษิณ สั่งการผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์ แก่ตนในการเข้าพักอาศัยอยู่ในห้องพักผู้ป่วยชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบอาการป่วยขั้นวิกฤต

ประเด็นที่ 2.กล่าวหา ทักษิณ สั่งการให้รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพื่อแบ่งผลประโยชน์ในก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา

ประเด็นที่ 3.กล่าวหาว่า ทักษิณ สั่งการให้พรรคเพื่อไทยร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ประเด็นที่ 4.กล่าวหาว่า ทักษิณ สั่งการแทนในพรรคเพื่อไทย โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสินเพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่บ้านพักส่วนตัว (ณ บ้านจันทร์ส่องหล้า)

ประเด็นที่ 5.กล่าวหาว่า ทักษิณ สั่งการให้พรรคเพื่อไทย มีมติขับพรรคพลังประ ชารัฐ(พปชร.) ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ…

ประเด็นที่ 6. กล่าวหาว่า ทักษิณ สั่งการให้พลพรรคเพื่อไทย นำนโยบายของตนไปเป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา

คำร้องทั้ง 6 ข้อนี้ ผู้ร้องคือ นายธีรยุทธ ได้เคยทำหนังสือขอให้อัยการสูงสุดร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยแล้ว แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการภายใน 15 วัน 

นายธีรยุทธ จึงยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการให้ ทักษิณ เลิกกระทำการดังกล่าว และ ให้พรรคเพื่อไทยเลิกยินยอมให้ ทักษิณ ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว

เมื่อที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ไม่พบพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 คือ ทักษิณ และผู้ถูกร้องที่ 2 คือ พรรคเพื่อไทย กระทำการให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อไม่ต้องด้วยหลักเกณท์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรนูญ มาตรา 49 วรรค 1

ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึง ประเด็นที่ 6 ด้วยคะแนน 9:0 

สำหรับประเด็นที่ 2 เรื่องเอื้อประโยชน์ในการแบ่งทรัพยากรใต้อ่าวไทยให้อดีตนายกรัฐมนประเทศกัมพูชา ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7:2 

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยคำร้องเพราะไม่พบพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอ ผู้ร้องทั้งหลายก็น่าจะถูกตีตราประทับปะไว้ที่หน้าผากด้วยว่า กระทำการกวนน้ำให้ขุ่น 

ทำให้ผู้คนทั้งไทย และเทศเกิดความสับสนต่อเสถียรภาพรัฐบาลจนดัชนีหุ้นไทยดิ่งลงต่อเนื่องหลังจากที่ทะลุ 1,500 จุด ไปได้ไม่กี่วัน

กระนั้นก็ตาม คำสั่งไม่รับวินิจฉัยนี้ ย่อมส่งผลในอีกด้านให้ อดีตนายกฯทักษิณ ติดปีกกระทการำตามคำที่เขากล่าวอ้างเองว่า เขาจะ ส.ท.ร.ในทุกเรื่อง

เรื่องที่คาดว่า ทักษิณ จะ ส.ท.ร.เป็นอันดับแรกคือ การแต่งตั้งนายพลตำรวจเพื่อรับมอบหมายให้ปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด

ถัดมาคือ เรื่อง แก้หนี้ครัวเรือน 90.7% ต่อ GDP ซึ่งมีมูลค่ารวมราว 16 ล้านล้านบาทให้ได้ด้วยการ ผ่าครึ่งค่าธรรมเนียมที่แบงก์พาณิชย์ต้องจ่ายล้างหนี้ FIDF ที่แบงก์ชาติทำขาดทุนไว้ในอดีต 0.46% ลงครึ่งเพื่อนำเงินที่ได้ไปช่วยในการขยับปรับลดมูลหนี้คงค้างลง 

ส่วนที่เหลืออีกครึ่ง ยังคงให้แบงก์พาณิชย์ช่วยกันใช้หนี้เงินต้นแทนแบงก์ชาติต่อไปในอัตรา 0.23% ตามที่ กิตติรัตน์ ระนอง อดีตรองนายกฯเคยสั่งการให้มีการแก้ไขเพื่อไม่ให้การใช้หนี้ FIDF กลายเป็นหนี้ 7 ชั่วโคตร

สำหรับเรื่องที่ 3. เดาไม่ยากว่า ทักษิณ จะต้องตามล้างตามเช็ดแบงก์ชาติ ผู้ขัดแข้งขัดขานโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต ที่เขาอยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทยเร็วที่สุดเพื่อให้ทันต่อยุคสมัยของโลกดิจิทัล นั่นเอง

คุณย่าขาซิ่ง

พรรคเพื่อไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้องประเด็น “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย”