คลังทบทวนเก็บ ภาษีมรดก ปิดช่องเลี่ยงภาษี

Thai money in Brown leather wallet on white background

คลังทบทวนเก็บ ภาษีมรดก ต้องปรับเกณฑ์ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อปิดช่องเลี่ยงภาษี หลังจากประกาศใช้ ภาษีมรดก เก็บภาษีได้หลักร้อยล้านบาทต่อปี

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่าง ทบทวน แนวทางการจัดเก็บ ภาษีมรดก ใหม่ เพื่อให้เกิด ความเหมาะสม หลังจาก ที่มีการประกาศ ใช้กฎหมาย มาตั้งแต่ปี 2558 แต่การจัดเก็บภาษี ดังกล่าว ยังทำได้ไม่มากนัก เนื่องจากมีบางเงื่อนไข หรือข้อยกเว้น ที่ทำให้ การจัดเก็บภาษี ดังกล่าว ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เช่น การจัดเก็บ ภาษีมรดก เฉพาะในส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท อาจต้องดู ให้เกิดความเหมาะสม มากขึ้น

“ต้องยอมรับว่า ยังเก็บภาษี ไม่ได้มากนัก เพราะเป็นภาษีชนิดใหม่ ซึ่งในช่วงแรก กระทรวงการคลัง ไม่อยากเข้มงวด มากเกินไป โดยเฉพาะเงื่อนไข และข้อยกเว้นต่างๆ ที่อยู่ในภาษีมรดก ที่ผ่อนปรน ในระยะแรก และ หากจะบังคับใช้เข้มงวดขึ้น เช่น การจัดเก็บมรดก เฉพาะในส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท อาจต้องดู ให้เกิดความเหมาะสมด้วย”

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติม ว่า การจัดเก็บ ภาษีมรดก เป็นการจัดเก็บ จากมูลค่ามรดก ที่ทายาทแต่ละคนได้รับ ซึ่งผู้รับมรดก เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี หลังจากประกาศบังคังใช้ จนถึงปัจจุบัน จัดเก็บรายได้ราว 3,600 ล้านบาท สำหรับภาษีมรดก ปัจจุบันเก็บที่ 10% ของมูลค่าสินทรัพย์

แต่มีเงื่อนไข ยกเว้น อาทิ การจัดเก็บภาษี จะเก็บเฉพาะมรดก ในส่วนที่มีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านบาทต่อคน ทำให้กลายเป็นช่อง ที่หลีกเลี่ยงภาษีได้ อาทิ บิดาเสียชีวิต มีมรดกอยู่ 300 ล้านบาท แบ่งให้ลูก 2 คนๆละ 100 ล้านบาท และญาติอีกคน 100 ล้านบาท เท่ากับว่ามรดกดังกล่าวจะไม่มีภาระภาษีเลย เนื่องจากได้รับมรดกไม่เกิน 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีความลักลั่นในการเสียภาษีสำหรับผู้รับมรดกต่างๆ โดยมรดกที่ไม่ต้องเสียภาษี เช่น เงินสด ทองคำ เครื่องเพชร พลอย ของสะสมของโบราณ และทรัพย์สินทางปัญญา

ซึ่งอาจเป็นช่องว่างให้เกิดการเล่นแร่แปรธาตุ เปลี่ยนการถือครองทรัพย์สินเป็นประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมรดก เช่น เปลี่ยนเป็นเงินสด ทองคำ หรือเครื่องเพชร แทนได้

ขณะที่ข้อยกเว้นการเสียภาษีมรดกอื่นๆ อาทิ เจ้าของมรดกแสดงเจตนาหรือเห็นได้ว่า มีความประสงค์ให้ใช้มรดกเพื่อประโยชน์ในกิจการศาสนา กิจการศึกษา หรือกิจการสาธารณะประโยชน์ หรือ หน่วยงานรัฐและนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกิจการศาสนา กิจการศึกษา หรือ กิจการสาธารณะประโยชน์ หรือบุคคล หรือองค์การระหว่างประเทศ ตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีต่อองค์กรสหประชาชาติหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ ก็จะไม่เสียภาษี

ทั้งนี้อัตราภาษีมรดกของไทยถือว่า ต่ำกว่าหลายๆประเทศที่จัดเก็บ โดยหลายๆประเทศในโลกที่มีการจัดเก็บภาษีมรดก ซึ่งส่วนใหญ่ เก็บภาษีจากการรับมรดก ควบคู่กับภาษีการให้ นั้น เก็บในอัตราที่สูงกว่าประเทศไทยมาก

ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น จัดเก็บในอัตราก้าวหน้า ตั้งแต่ 10 –70% ,ฝรั่งเศส 35 % กรณีเป็นทายาทสายตรง แต่ถ้าไม่ใช่ญาติ จัดเก็บอัตรา 60 % ,เกาหลีใต้ 10 -50%

ส่วนสิงคโปร์ใช้วิธีการจัดเก็บจากกองมรดก ในอัตราก้าวหน้า 5-10% ,ไต้หวัน เก็บจากกองมรดก และภาษีการให้

โดยภาษีกองมรดก จัดเก็บในอัตราก้าวหน้า ตั้งแต่ 2-50% และภาษีการให้ อัตราก้าวหน้า 4-50%

อย่างไรก็ดี เหตุผลของการจัดเก็บภาษีมรดกนั้น ไม่ใช่เพื่อต้องการรายได้เข้ารัฐบาล แต่เพื่อความเป็นธรรมในสังคม และการกระจายรายได้ เนื่องจากทรัพย์สินที่พอกพูนขึ้น

จนเป็นมรดกนั้น เกิดขึ้นจากการได้รับประโยชน์จากทรัพยากรที่รัฐได้ลงทุนในประเทศ จึงมีภาระที่สมควรที่ผู้ได้รับมรดก ควรมีภาระต้องจ่ายคืนให้รัฐ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง EP.4 “นายกฯเศรษฐา” ยันปลุกชีพภาษีมรดก ลดความเหลื่อมล้ำ