ดาวโจนส์ ปิดร่วงกว่า 570 จุด หลัง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,815.92 จุด ลดลง 570.17 จุด หรือ -1.49% รับแรงกดดัน จากข้อมูลเศรษฐกิจ ของสหรัฐฯในเรื่องต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลง ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน ขยับตัวเพิ่มขึ้น มากที่สุด ในรอบ 1 ปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 97 ในเดือน เม.ย. เป็นระดับต่ำสุด ตั้งแต่ปี 65

  • ด้านหุ้นบริษัทใหญ่ที่สุด 7 แห่ง ของสหรัฐฯ ปิดลดลงเป็นส่วนใหญ่

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดร่วงแรง ในวันที่ 30 เม.ย.67 กลังถูกกดดัน จากการเปิดเผยข้อมูล เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่า ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จ่อประชุมนโยบายการเงินในวันอังคาร และพุธนี้

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,815.92 จุด ลดลง 570.17 จุด หรือ -1.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,035.69 จุด ลดลง 80.48 จุด หรือ -1.57% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,657.82 จุด ลดลง 325.26 จุด หรือ-2.04%

สำหรับหุ้นทั้ง 11 กลุ่ม ของดัชนี S&P500 ปิดลบ นำโดยกลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ปิดร่วงลง 2.89% และ 2.66% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวลง 0.11%

ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ต้นทุนแรงงาน ของสหรัฐเพิ่มขึ้นมาก เกินคาดในไตรมาส 1/2567 ซึ่งบ่งชี้ ถึงแรงกดดัน ด้านค่าแรง ที่เพิ่มขึ้น

โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีต้นทุน การจ้างงาน (ECI) ซึ่งเป็น มาตรวัดต้นทุนแรงงาน ที่กว้างที่สุด เพิ่มขึ้น 1.2% ในไตรมาส 1/2567 เมื่อเทียบรายไตรมาส

โดยถือเป็น การเพิ่มขึ้นมาก ที่สุด ในรอบ 1 ปี และสูงกว่า ตัวเลขคาดการณ์ ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในไตรมาส 4/2566

อีกทั้ง ยังมีผลสำรวจ บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ย่ำแย่ลงใน เดือน เม.ย. โดยลดลง สู่ระดับต่ำสุด ในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง

ทั้งนี้ Conference Board ซึ่งเป็น สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคสหรัฐฯ

ปรับตัวลงสู่ระดับ 97 ใน เดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2565 จากระดับ 103.1 ใน เดือน มี.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ที่ระดับ 104

ทั้งนี้ ข้อมูลจากแอลเอสอีจี (LSEG) บ่งชี้ว่า ตลาดการเงินปรับตัวรับการคาดการณ์ ถึงเหตุที่ธนาคารการสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.31% ในปีนี้ ลดลงจากราวๆ 1.50% ที่คาดไว้ช่วงต้นปี

ในส่วนของหุ้นของบริษัทใหญ่ที่สุด 7 แห่ง ปิดลดลงเป็นส่วนใหญ่ อาทิ หุ้นเทสลา, อัลฟาเบท, อินวิเดีย, ไมโครซอฟท์และอะเมซอน

สำหรับหุ้นรายตัว อย่างหุ้นจีอี เฮลท์แคร์ร่วงลงหลังรายงานรายได้ ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด แต่หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น หลังรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้นเกินคาด

ดัชนีดาวโจนส์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ดาวโจนส์ปิดบวก 146 จุด พอใจผลประกอบการ-จับตาประชุมเฟด