ตลาดมีแรงซื้อกลับเข้ามาแต่ยังไม่คึกคัก เพื่อช้อนซื้อหุ้นที่ราคาดิ่งลงมาก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าคาดวานนี้ ส่งผลให้นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ของเฟดเป็นเดือนมิ.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนพ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ดังกล่าว และส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 500 จุดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาเป็นสีเขียว นักลงทุนกลับมาช้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังตลาดดิ่งลงอย่างหนักวานนี้
- สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลง หลังดอกเบี้ยเงินกู้ดีดตัวขึ้น
- นักลงทุนจับตาทิศทางการใช้จ่ายเงินเฟ้อ เพื่อรอดูสถานการณ์ดอกเบี้ย-เศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 38,329.95 จุด เพิ่มขึ้น 57.20 จุด หรือ 0.15% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,980.24 จุด เพิ่มขึ้น 27.07 จุด หรือ0.55% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,768.52 จุด เพิ่มขึ้น 112.92 จุด หรือ 0.72%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงในวันนี้ แต่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 4.2% ขณะที่นักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 51,000 ดอลลาร์
ด้านทิศทางเศรษฐกิจ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองดีดตัวขึ้น ขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 3% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนจำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 766,550 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 6.87% จากระดับ 6.80% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตายอดค้าปลีกในวันพรุ่งนี้ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันศุกร์ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
