ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังแกว่งตัวแคบ โดยนักลงทุนยังมีความกังวลต่อเนื่องว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาด หลังอัตราเงินเฟ้อล่าสุดยังสูงกว่าคาด นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในเดือนมี.ค.
- นักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง กังวลอัตราเงินเฟ้อล่าสุดสูงกว่าคาด
- ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส ต้นเดือน มี.ค.
- นักลงทุนคาดการณ์ เฟดเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมรอบเดือน มิ.ย.
เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 38,625.37 จุดลดลง 2.62 จุด หรือ 0.01% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,978.53 จุด ลดลง 27.04 จุด หรือ 0.54% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,606.00 จุด ลดลง 169.66 จุด หรือ 1.08%
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 มี.ค. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 7 มี.ค.
ทั้งนี้ การเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดได้ทำให้นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้เป็นเดือน มิ.ย. จากเดิมที่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. แต่ก็เลื่อนมาเป็นเดือนพ.ค. ก่อนที่ล่าสุดคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดดังกล่าวทำให้นักลงทุนเริ่มลดน้ำหนักคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยจำนวนมากกว่า 4 ครั้ง
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ตลาดยังคงซื้อขายหุ้นเก็งกำไรผลประกอบการ โดยราคาหุ้นของวอลมาร์ท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลกพุ่งขึ้น จากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยวอลมาร์ทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในเดือนพ.ย.2566-ม.ค.2567 ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปีงบการเงินบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่บริษัทมีกำไร1.80 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.65 ดอลลาร์/หุ้น
ด้านราคาหุ้นของโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐลดลง หลังบริษัทคาดการณ์ยอดขายในปี 2567 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทคาดว่ายอดขายจะมีการขยายตัวเพียง 1% ในปี 2567 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6%
