“ภูมิธรรม” สั่งทูตพาณิชย์ หา Influencer รีวิวสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จัก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมร่วมกับระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์

ภูมิธรรม” สั่งทูตพาณิชย์ หา Influencer รีวิวสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จัก เพื่อโน้มน้าวให้คนสนใจและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ติดตามในการซื้อสินค้าและบริการ

  • ผลักดันให้ทูตพาณิชย์เป็นทัพหน้า
  • พาณิชย์จังหวัดต้องสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ ซึ่งเกิดจากแนวคิดในการผลักดันให้ทูตพาณิชย์เป็นทัพหน้าร่วมกับพาณิชย์จังหวัด และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการจัดระบบโครงสร้างภายในภูมิภาคและต่างประเทศ  โดยพาณิชย์จังหวัดต้องสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตามบริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด หรือ Area-based Agenda

“ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดค้นหา Influencer หรือ ผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางให้คนรู้จักสินค้าไทยมากขึ้นด้วยการรีวิวสินค้า ให้ผู้ติดตามได้รับชม เพื่อโน้มน้าวให้คนสนใจและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ติดตามในการซื้อสินค้าและบริการ และมอบหมายให้ทูตพาณิชย์ค้นหาร้าน Thai SELECT จำนวน 5 ร้านในแต่ละประเทศเพื่อเป็นที่จัดแสดงสินค้าไทยและสะท้อนภูมิปัญญาของไทย เช่น อาหาร เพลง มวยไทย เป็นต้น ผลักดันให้เป็น Soft Power” นายภูมิธรรมกล่าว

พาณิชย์จังหวัดจะมีบทบาทในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากสินค้าเกษตรเฉพาะถิ่น นวัตกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม เกษตรอินทรีย์ และ GI รวมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าเหล่านี้ ทั้งภายในประเทศและในตลาดเป้าหมาย ตลอดจนแสวงหาโอกาสทางการตลาดรองรับการปลูกพืชทางเลือกต่างๆ โดยมุ่งเน้นการค้าสินค้าเกษตรคุณภาพที่ผ่านการรับรอง สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ภูมิภาค โดยวางแผนร่วมกันระหว่างภาคีตลอดห่วงโซ่มูลค่า

พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์จะต้องมีบทบาทเป็นกลไกเชิงรุก ในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ในประเด็นต่าง ๆ โดยวางระบบติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรที่จะออกสู่ตลาดตามฤดูกาล เพื่อเตรียมการตอบสนองข้อเรียกร้อง และรับมือกับปัญหาล่วงหน้าได้ โดยสื่อสารใกล้ชิดกับประชาชน และมี กลยุทธ์การสื่อสารที่สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายและวิถีชีวิตเกษตรกรเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแต่ละพื้นที่ และต้องมองให้เห็นถึงจุดเด่นและศักยภาพที่แต่ละจังหวัดจะนำมาเชื่อมโยงให้เกื้อกูลกันได้ เพื่อตอบสนองตลาดทั้งภายในและประเทศ รวมทั้งมุ่งเน้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับท้องถิ่น ภาค และต่างประเทศ หรือ Linking Local to Regional and Global Economy