Care the Bear สู่สายตาชาวโลก

ช่วงเวลานี้ เรากำลังอยู่ในบรรยากาศของสุดยอดการประชุม APEC 2022  ที่ประเทศไทยเราได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม  ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่สายตาของนานาประเทศทั่วโลก  

องค์กร ทั้งหน่วยงานรัฐ และเอกชน ที่มีส่วนร่วมกับการประชุม APEC นอกจากจะเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ประชาสัมพันธ์ผลงานและชื่อเสียงขององค์กรนั้นๆ สู่สากลแล้ว  ยังถือได้ว่า เป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่ได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ครั้งสำคัญระดับโลก

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมเป็นAPEC Communication Partner สื่อสารการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค 2022 และออกบูธแสดงศักยภาพของตลาดทุนไทย และบทบาทการส่งเสริมการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน  ตอกย้ำความเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ

เป็นโอกาสครั้งสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้นำเสนอ โครงการ Care the Bear ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มความร่วมมือลดภาวะโลกร้อน สู่สายตาของชาวโลก  

คุณภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ บอกว่า ตลท.ใช้โครงการ Care the Bear มาสนับสนุนการประชุมเอเปค  ผ่านการจัดการพื้นที่ “ศูนย์ข่าวสีเขียว”  รวมถึงพื้นที่จัดบูธนิทรรศการขององค์กรต่าง ๆ รวมพื้นที่กว่า 22,000 ตร.ม. เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานและทรัพยากรในการจัดกิจกรรม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยส่งเสริมให้องค์กรที่ร่วมออกบูธในงาน รวมทั้งผู้ร่วมงาน เข้าใจและนำหลักปฏิบัติ 6 Cares ไปใช้ ได้แก่  1.การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือเดินทางมาร่วมกัน 2.การลดใช้กระดาษและพลาสติก 3.การงดการใช้โฟม 4.การลดใช้พลังงาน 5. การใช้วัสดุตกแต่งที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ และ 6.การลดขยะจากอาหารเหลือทิ้ง 

นานาประเทศจะได้เห็นต้นแบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่า และบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรม ซึ่งเกิดจากการบูรณาการทำงานร่วมกันกระทรวงต่างประเทศ, ตลาดหลักทรัพย์ฯ กับพันธมิตรตลาดทุน ได้แก่ กลุ่มบริษัทบางจาก ที่ร่วมประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมจัดหาคาร์บอนเครดิตมาชดเชยเอสซีจี สนับสนุนนวัตกรรมกระดาษรีไซเคิลได้ สำหรับตกแต่งงานประชุมเพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ที่นำขยะพลาสติกสู่กระบวนการ Circular Economy หลังเสร็จสิ้นงาน

ศูนย์ข่าวสีเขียวจะเป็นพื้นที่ศูนย์ข่าวของการประชุม รองรับสื่อมวลชนจากทั่วโลกกว่า 3,000 คน  ช่วยสะท้อนศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนความยั่งยืนโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านบูธและนิทรรศการของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ผลิตจากวัสดุหมุนเวียน คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ขณะที่การบริหารจัดการขยะจะทำอย่างครบวงจร สามารถติดตามผลและนำไปสู่เป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อน

แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนความยั่งยืนดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ที่ปฏิบัติได้จริง วัดผลได้ เป็นต้นแบบและนำไปสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรต่าง ๆ และขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต

องค์กรที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.carethebear.com