แดนกระทิงดุแจง มีผู้เสียชีวิตจาก “โควิด-19” รายแรก

Soldiers wearing protective gear spray disinfectant in alleyways as a precaution against the new coronavirus in Seoul, South Korea, Tuesday, March 3, 2020. (AP Photo/Lee Jin-man)
  • มีผู้เสียชีวิตทั่วโลก 3,198 ราย
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 93,158 ราย
  • รักษาหายกลับบ้านแล้ว 50,690 ราย
  • ผู้ป่วยที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล 39,270 ราย

รัฐบาลสเปนพบผู้เสียชีวิตคนแรกจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยยืนยันจากผลการชันสูตรศพพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 โดยสำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ว่ากระทรวงสาธารณสุขของสเปนออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร เรื่องผลการชันสูตรศพของ “ชายชาวสเปนคนหนึ่ง” ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในแคว้นบาเลนเซีย ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเป็นผลจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” เนื่องจากผลเลือดออกมา “เป็นบวก”

ทั้งนี้ การเสียชีวิตของชายคนดังกล่าวจึงเป็นเคสแรกของโรคโควิด-19 ในสเปน ที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสมในประเทศอย่างน้อย 165 คน และรักษาหายแล้ว 2 คน สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชาวสเปนคนแรกที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 นั้น มีประวัติการเดินทางเยือนเนปาล และกลับมาล้มป่วย แต่ในเวลานั้นแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดบวม ขณะที่ข้อมูลของเนปาลซึ่งแจ้งกับองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ยังระบจำนวนผู้ป่วยสะสมในประเทศไว้ที่อย่างน้อย 1 คน และรักษาหายแล้ว

ขณะที่รายงานผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิค-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 3,198 ราย ณ เช้าวันที่ 4 มีนาคม จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 93,158 ราย ในจำนวนดังกล่าว มีผู้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 50,690 ราย และผู้ป่วยที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล 39,270 ราย

ขณะที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประเทศจีนมีผู้เสียชีวิต 38 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตในจีนแผ่นดินใหญ่สะสมอยู่ที่ 2,981 คนตามข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) โดย 37 คนของผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 38 คนที่เสียชีวิต อยู่ในมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด

ขณะที่มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดไวรัสโควิค-19 เพิ่มอีก 119 คน ณ วันอังคารที่ผ่านมา โดย 115 คนของทั้งหมดมาจากมณฑลหูเป่ย

โดยรวมแล้วณ วันที่ 4 มีนาคม มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่เริ่มระบาดจนถึงปัจจุบัน 80,270 คน และ พบว่ามีผู้ป่วย 49,856 คนที่ได้รับการรักษาและหายจากโรงพยาบาล

ขณะที่ญี่ปุ่นได้รับการยืนยันการติดเชื้อไวรัสโควิค-19 เพิ่มในวันที่ 4 มีนาคม 17 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 991 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วย 706 รายเชื่อมโยงกับเรือสำราญ Diamond Princess ตามกระทรวงสาธารณสุข อีก 284 คนติดเชื้อบนบก ผู้ป่วยสิบสองคนเสียชีวิต

หนึ่งในผู้ป่วยรายใหม่ที่ติดเชื้อไวรัสอยู่ในจังหวัดยามากุจิทำให้เป็นกรณีแรกของพื้นที่ ด้านเกาหลีใต้พื้นที่ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิค-19 สูงสุดนอกเขตประเทศจีน รัฐบาล ได้เสนองบประมาณจำนวน 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11.7 ล้านล้านวอน เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิค-19

รัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจของไวรัสโควิค-19 ในเกาหลีใต้มีความรุนแรงมากกว่าโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) และโรคทางเดินหายใจในตะวันออกกลาง (MERS) ในปี 2555 ที่รัฐบาล เกาหลีใต้จัดสรรเงินงบประมาณในช่วงที่เกิดการระบาดของ MERS จำนวนประมาณ 9.76 พันล้านดอลลาร์

อิหร่านพบผู้ป่วยมากกว่า 2,300 คน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ในประเทศอิหร่านมีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยมีผู้ป่วยสะสม 2,300 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวแล้วถึง 77 ราย ทำให้ อิหร่านเป็นประเทศในตะวันออกกลางที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในโลก

ในขณะที่พบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับจากการเดินทางไปประเทศอิหร่านตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิค-19 มากกว่า 10 ประเทศประกอบด้วย นักท่องเที่ยวจาก อาฟกานิสถาน อาร์มีเนีย ออสเตรเลีย บาร์เรน เบรารุส แคนาดา อิรัก คูเวต เลบานอน โอมาน นิวซีแลนด์ ปากีสถาน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตน์ สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ

โควิค-19 มีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าไข้หวัดตามฤดูกาบ: WHO

องค์การอนามัยโลกระบุในวันอังคาร(3มี.ค.) ราว 3.4% ของผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) เสียชีวิต ซึ่งเป็นอัตรามากกว่าไข้หวัดตามฤดูกาลที่ต่ำกว่า 1% อย่างไรก็ตามเชื่อยังสามารถควบคุมได้ แม้อีกด้านหนึ่งสถานการณ์ยังคงลุกลามไม่หยุด ด้วยอาร์เจนตินาพบผู้ติดเชื้อรายแรก ส่วนสเปนมีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นรายแรก

เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเรียกร้องประเทศต่างๆให้เตรียมการรับมือกับเคสคนไข้ติดเชื้อไวรัสในโรงพยาบาลและหาทางรับประกันว่าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์จะได้รับการปกป้อง

อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าโลกจำเป็นต้องเพิ่มอุปทานชุดป้องกัน, หน้ากากอนามัย,ถุงมืออนามัยและแว่นตานิรภัยประมาณ 40% พร้อมระบุว่า “เราขอเรียกร้องให้พวกผู้ผลิตต่างๆเพิ่มกำลังผลิตโดยด่วนเพื่อให้เพียงพอต่ออุปสงค์”

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกบอกว่าทั่วโลก ราวๆ 3.4% ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต ขณะที่ไข้หวัดตามฤดูกาลโดยทั่วไปจะคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อไม่ถึง 1

“กล่าวโดยสรุป การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีประสิทธิภาพน้อยกว่าไข้หวัด ดูเหมือนการติดต่อไม่ได้ขับเคลื่อนโดยคนที่ไม่ได้ป่วย มันก่ออาการป่วยรุนแรงกว่าไข้หวัด ยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีรักษา แต่ยังสามารถควบคุมได้”

ด้าน ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก บอกว่ามาตรการจำกัดการเดินทางและคัดกรองนักเดินทางควรเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอ “ประเทศต่างๆที่พึ่งพิงแต่การจำกัดเดินทางเป็นเพียงการแทรกแซงด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียวยังไม่ได้ผลดีพอ เพราะว่าบ่อยครั้งที่เคสนำเข้าทั้งหลายเล็ดลอดจากการระมัดระวังไป”

เขายังแนะนำเจ้าหน้าที่ประเทศต่างๆเน้นความสำคัญไปที่มาตรการยับยั้งทั้งหลาย แต่ก็เตือนให้พร้อมรับมือสำหรับการแพร่ระบาดในชุมชนและหาทางทำให้สถานการณ์ผ่อนหนักเป็นเบา

ความเคลื่อนไหวขององค์การอนามัยโลกมีขึ้นในขณะที่กิเนส กอนซาเลซ รัฐมนตรีสาธารณสุขของอาร์เจนตินาในวันอังคาร(3มี.ค.) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) คนแรกของประเทศ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอีกคนให้ข้อมูลว่าคนไข้รายนี้เป็นชายวัย 43 ปี เข้ามาในอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม หลังเดินทางท่องเที่ยวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในนั้นรวมถึงเมืองทางเหนือของอิตาลี พื้นที่ซึ่งกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งนอกประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีสาธารณสุขยืนยันว่าชายคนดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคแล้ว นับตั้งแต่เดินทางไปพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งด้วยตนเอง

คาร์ลา วิตซอตติ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขบอกว่าอาร์เจนตินายังอยู่ในขั้นที่สามารถควบคุมจัดการกับไวรัสได้ “การจำกัดควบคุมหมายความว่าเราจะทำงานสำหรับตรวจสอบเคสต้องสงสัยตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งยืนยันหรือปฏิเสธ”

บราซิล ยืนยันว่าเป็นชาติแรกในละตินอเมริกาที่พบผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์
โควิด-19 ถูกพบครั้งแรกในแถบภาคกลางของจีนเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้มันแผ่ลามไปเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศที่มีการระบาดหนักหน่วงที่สุดนอกเหนือจากจีน ได้แก่เกาหลีใต้, อิหร่านและอิตาลี