แชมป์โลก “ฝรั่งเศส” หวิดเสียท่า”ฮังการี” หืดขึ้นคอไล่เจ๊า 1-1 ศึกยูโร2020

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2564 ศึกฟุตบอลยูโร 2020 กลุ่มเอฟ ที่ปุสกัส อารีน่า กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เป็นการแข่งขันของ ฝรั่งเศสและฮังการี

ผู้เล่น 11 ตัวจริงของฮังการีในระบบ 3-5-2 ประกอบด้วย : ปีเตอร์ กูลาชชี่, เอนเดร บ็อตก้า, วิลลี่ ออร์บาน, อัตติล่า ซาไล, โลอิช เนโก้, ลาสซโล ไคลน์ไฮสเลอร์, อดัม นากี้, อันดราช เชเฟอร์, อัตติล่า ฟิโอล่า, โรลันด์ ซัลไล, อดัม ซาไล

ส่วนฝรั่งเศสเล่นระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย : อูโก้ โยริส, บ็องฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาเอล วาราน, เปรสเนล คิมเปมเบ้, ลูก้าส์ ดีญ, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, อองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซม่า, คีเลียน เอ็มบัปเป้

เปิดฉาก ฮังการีเน้นแผนตั้งรับแน่นรอจังหวะสวนกลับ ขณะที่ฝรั่งเศสเน้นการต่อบอลทำเกมบุกหาช่องเจาะทั้งตรงกลางและการทำเกมจากด้านข้าง

นาที 14 เป็นจังหวะหวาดเสียวครั้งแรกของเกม คาริม เบนเซม่า กองหน้าฝรั่งเศส ส่องไกลจากนอกกรอบ ปีเตอร์ กูลาชชี่ นายทวารฮังการีพุ่งปัดไปเข้าทางอองตวน กรีซมันน์ ซึ่งพยายามซ้ำ แต่ก็ยังติดเซฟ และยังเป็นจังหวะล้ำหน้า

นาที 21 เบนเซม่าพยายามต่อบอลเร็วให้เอ็มบัปเป้ในกรอบเขตโทษ แต่เอ็มบัปเป้ไม่ทันตั้งหลัก บอลข้ามคานไป

นาที 26 ฮังการีต้องเปลี่ยนตัวเร็วเมื่อกัปตันทีม อดัม ซาไล หัวใจในเกมรุกของทีม มีปัญหาบาดเจ็บ ต้องส่งเนมันย่า นิโคลิช ลงไปแทน

นาที 31 ฝรั่งเศสพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะตวัดบอลข้างเท้าสุดสวยของเอ็มบัปเป้ ไปแถวจุดโทษให้เบนเซม่าเข้าซ้ำ แต่กองหน้าจากรีล มาดริด ซัดลูกหลุดออกข้างไปแบบไม่มีลุ้น

หลังจากนั้น แชมป์โลกแทบพับสนามบุก ต่อบอลทำเกมอย่างหลากหลาย หวังทำประตูให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เด็ดขาดพอ นาที 34 เอ็มบัปเป้อาศัยความสามารถเฉพาะตัวหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ และเตะลอดขากองหลัง แต่บอลออกข้างไป

อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสบุกเพลินๆ แต่กลับกลายเป็นฮังการีที่ได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะการสวนกลับต่อบอลยาวอย่างแม่นยำ ก่อนบอลไปถึงอัตติล่า ฟิโอล่า ซึ่งลากบอลลุยเดี่ยวฝ่าแนวรับฝรั่งเศสเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนเลือกยิงมุมแคบเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงามในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 45+2

จบครึ่งแรก ฮังการีพลิกขึ้นนำ 1-0

เริ่มครึ่งหลัง ฮังการีเริ่มเล่นอย่างมั่นใจ กล้าเล่น กล้าต่อบอลกันมากขึ้น ไม่ปล่อยให้ฝรั่งเศสทำเกมได้ง่ายๆ

นาที 57 ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส เปลี่ยนตัวคนแรก ส่งอุสมาน เด็มเบเล่ กองหน้าจากบาร์เซโลน่า ลงแทนอาเดรียง ราบิโอต์

ลงสนามได้เพียง 2 นาที เด็มเบเล่ก็หวิดทำประตูตีเสมอให้ทีมตราไก่ จากจังหวะสวนกลับเร็ว เด็มเบเล่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ล็อกหลบก่อนหลังก่อนสับไกเต็มแรง ลูกพุ่งชนเสาออกไป

นาที 66 ฝรั่งเศสตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะโยนยาวจากปากประตูของนายทวาร อูโก้ โยริส ลูกหลุดไปถึงคีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าความเร็วสูง ซึ่งเก็บบอลและปาดกลับเข้ากลางจากแถวเส้นหลัง วิลลี่ ออร์บาน ผู้เล่นฮังการี พยายามแหย่ขาสกัด แต่บอลไปเข้าทางอองตวน กรีซมันน์ ซึ่งเติมขึ้นมาจากแถวสอง ซัดเข้าไป ตีเสมอ 1-1

นาที 82 ฝรั่งเศสหวิดได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่กรีซมันน์พยายามเปิดบอลให้โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าตัวสำรองตรงกรอบเขตโทษ กองหลังฮังการีเข้าขวางทำให้บอลเปลี่ยนทางไปหาเอ็มบัปเป้ซึ่งเกี่ยวบอล 1 จังหวะก่อนสับไกด้วยเท้าซ้ายเต็มแรง แต่ปีเตอร์ กูลาชชี่ นายทวารเจ้าถิ่นยืนตำแหน่งดี ยก 2 มือป้องกันเอาไว้ได้

หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 1-1

ส่งผลให้ฝรั่งเศสมี 4 คะแนนจาก 2 นัด โอกาสเข้ารอบสูง ขณะที่ฮังการีเก็บแต้มแรก