“เศรษฐา” ห่วงตั้งรัฐบาลล่าช้ากระทบ พ.ร.บ.งบประมาณ 2567

  • หวังรัฐบาลประชาธิปไตยจัดตั้งได้โดยเร็ว
  • ซัด “เลอะเทอะ” พวกปล่อยข่าวจับมือพปชร.

วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล เดินสายขอบคุณชาวพิษณุโลก พร้อมเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า หากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลตกลงได้ว่าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นของพรรคก้าวไกลก็เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลที่จะเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมให้สาธารณชนรับรู้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยคงต้องรอให้ทั้ง 2 พรรคพูดคุยหารือกันให้ได้ข้อสรุปเป็นการภายในก่อน ขณะนี้เราควรเน้นที่จุดมุ่งหมายสำคัญ อีกไม่นานตำแหน่งประธานสภาก็จะชัดเจนจากนั้นก็เดินหน้าต่อไปในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่าสมาชิกทั้ง 2 พรรคการเมืองอาจต้องหยุดออกมาให้ความเห็นเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ก็มีสิทธิเสรีภาพ แต่เชื่อว่าหลายคนทราบว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนไม่ควรพูดอย่างไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี หากนายพิธาไม่สามารถได้เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่การโหวตในครั้งแรก จะมีทางออกอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็คงมีสิทธิ์เสนอชื่อได้อีก แต่ส่วนตัวไม่แน่ใจกระบวนการทางรัฐสภาว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ ขอให้เป็นไปทีละขั้นตอน และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยได้โดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องสำคัญคือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ต้องคำนึงถึง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะลดบทบาททางการเมืองลง เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือว่าเหมาะสม เพราะประชาชนก็อยากเห็นแบบนั้น เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ขอให้เปลี่ยนผ่านไปด้วยดี ไม่มีผิดใจกันหรือมีประเด็นอะไรเกิดขึ้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจลดบทบาททางการเมืองลงจริง ก็จะช่วยลดความเผ็ดร้อนและความรุนแรงลงได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวจากพรรคพลังประชารัฐว่า นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 อาจเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเศรษฐา ตอบว่า เป็นสิทธิของเขาเพราะแต่ละพรรคก็มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตัวเอง การออกมาพูดแบบนี้ก็ต้องมาดูที่คะแนนเสียงด้วย ลองนับเลขดู เพราะเลขไม่ได้เป็นหลักล้าน ใช้แค่มือนับก็ได้แล้ว  ส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมกันในฝ่ายประชาธิปไตยในตอนนี้จึงต้องโฟกัสที่เรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย

.

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการปล่อยข่าวสูตรจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐออกมาตลอด นายเศรษฐา ตอบว่า “เลอะเทอะถามกี่ครั้งก็จะตอบว่าเลอะเทอะ”