เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ครั้งแรกรอบ 11 ปี แต่พาเวลล์ไม่ส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อ

  • มติไม่เอกฉันท์ 8 เสียงต่อ 2 เสียง เฟดบอสตัน-แคนซัส ซิตี้ ไม่เห็นด้วย
  • “เจอโรม พาวเวลล์”ยังไม่ส่งสัญญาณ “ดอกเบี้ยขาลง”
  • ”ทรัมป์” ทวีต ปรี๊ดแตกบอกเฟดทำให้ผิดหวังซ้ำซาก

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 8-2 เสียงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังการประชุมต่อเนื่อง 2 วันในวันที่ 30-31 ก.ค.ที่่ผ่านมา

การประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551

ทั้งนี้ การปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวไม่เป็นเอกฉันท์ โดยนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน และนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ย โดยระบุถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบัน, อัตราว่างงานต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์เฟดในการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ ระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำของสหรัฐ เป็นสาเหตุสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนั้น เฟดยังได้ตัดสินใจที่จะยุติการปรับลดงบดุลในครั้งนี้ ซึ่งเร็วกว่าเดิมถึง 2 เดือน จากเดิมที่กำหนดไว้ใน เดือนก.ย. โดยเฟดจะระงับการปรับลดการถือครองพันธบัตรที่เฟดได้ทำการซื้อตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ

แถลงการณ์เฟด ยังระบุว่า เฟดจะยังคงจับตาข้อมูลที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% แต่เศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มที่ไม่แน่นอน แม้ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนได้ฟื้นตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายเจอโรม พาวเวลล์ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ของเฟดในการประชุมล่าสุดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการที่เฟดกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อปรับให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจ โดยเฟดได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนจากเดิมที่ตั้งใจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ไปสู่การใช้ท่าที”ที่มีความอดทน”

“การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นการป้องกันความเสี่ยงในช่วงขาลงเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ เรามองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนนโยบายในช่วงกลางวัฏจักร ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ต่อเป้าหมายทั้งหมดของเฟด”

ส่งผลให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจหลังประธานเฟด ไม่ได้ออกมาส่งสัญญาณเริ่มต้น “วงจรการปรับลดดอกเบี้ยเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง”

“พาวเวลทำให้เราผิดหวังเหมือนเคย” ปธน.ทรัมป์ ระบุในทวิตเตอร์ “ถึงอย่างนั้นเราก็กำลังชนะอยู่ดี แต่เฟดไม่ค่อยยื่นมือช่วยสักเท่าไรเลย!”

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า “สิ่งที่ตลาดอยากได้ยินจากพาวเวล และเฟดคือคำพูดที่ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของวงจรการปรับลดดอกเบี้ยเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตามทันจีน สหภาพยุโรป และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก หรืออย่างน้อยเขาก็กำลังยุตินโยบายคุมเข้มทางการเงินในเชิงปริมาณ ซึ่งก็ไม่ควรจะมีขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเงินไม่เฟ้อเลย”