เปิดข้อปฏิบัติมาตรการคุมเข้ม 8 กิจการในกทม. หลังยืนยันให้เปิด แต่ยังไม่ระบุเวลา รอ ศบค. ประกาศพร้อมกัน ร้านอาหารติดแอร์เปิดได้ ส่วนเหล้ายังถูกห้ามขายต่อไป

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. แถลงผลประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ (กทม.) เรื่องผ่อนปรนให้เปิดกิจการ 8 ประเภท ระบุว่า สำหรับการเปิดกิจการ 8 ประเภทนั้น ยังรอกำหนดการจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศบค. เพื่อให้ทั่วประเทศเปิดพร้อมกัน ลดความแออัดและเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด เช่น หาก กทม.ประกาศเปิดก่อน อาจทำให้มีคนจาก จ.นนทบุรี เข้ามาตัดผมใน กทม.ได้

สำหรับกิจการ 8 ประเภท ส่วนของร้านอาหาร เป็นร้านอาหารที่ไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้า ต้อง 1.คัดกรองอุณหภูมิพนักงาน-ลูกค้าทุกคน 2.จัดระยะห่างของที่นั่งอย่างน้อย 1.5 เมตร 3.งดให้บริการให้ลูกค้าประกอบอาหารที่โต๊ะ เช่น ชาบู สุกี้ ปิ้งย่าง แต่สั่งแบบสำเร็จแล้วมารับประทานได้4.งดให้บริการในลักษณะตักเอง แบบบุฟเฟ่ต์ แต่สามารถให้บริการที่สั่งจากรายการอาหารได้ 5.งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและงดดื่มในร้าน 6.งดการเล่นดนตรีหรือแสดงสด 7.จัดให้มีแผ่นใสหรือฉากกั้นอาหาร 8.มีที่ล้างมือหรือเจลล้างมือที่จุดเข้า-ออกร้านอาหาร รวมถึงต้องทำความสะอาดทุกชั่วโมง หากไม่สามารถทำได้ ให้งดให้บริการสุขานอกจากนี้ต้องทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งเมื่อลูกค้าใช้ และทำความสะอาดพื้น ราวจับ ลูกบิด เคาท์เตอร์อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

ส่วนร้านอาหารที่ติดเครื่องปรับอากาศ ต้องระบายอากาศทุก 2 ชั่วโมง และมีมาตรการทำความสะอาดภาชนะ ส่วนการรอคิวอาหารต้องมีการเว้นระยะห่างลูกค้า 1.5 เมตร โดยร้านค้าต้องมีสัญลักษณ์จุดยืนให้ลูกค้า ผู้ให้บริการ พนักงานต้องรวบผม ใส่ถุงมือ สวมหน้ากากและเฟซชิลด์ ส่วนพนักงานที่มีอาการป่วยให้หยุดปฏิบัติงานแล้วไปพบแพทย์ ผู้ปรุงอาหารและพนักงานต้องล้างมือทุกครั้งก่อนทำอาหารและเสิร์ฟอาหาร พนักงานต้องเว้นระยะในการผู้คุยกับลูกค้า

สำหรับคนที่ไปรับประทานอาหารเป็นครอบครัว ขอความร่วมมือว่าช่วงนี้ทำไม่ได้ ต้องทำตามมาตรการ จึงขอให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านก่อน และขอย้ำว่ามาตรการนี้ไม่รวมร้านอาหารในซูเปอร์มาเก็ต

ทางด้านตลาด ให้จัดเว้นระยะห่างสำหรับผู้ใช้บริการ และมีจุดคัดกรองสำหรับผู้เข้ามาใช้บริการจุดทางเข้าตลาด และให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าพื้นที่จัดให้แผงค้ามีระยะห่างกันมากกว่า 1.5 เมตร และทำความสะอาดตลาดด้วยน้ำยาที่ถูกต้อง และต้องทำความสะอาดส้วมในตลาดให้ได้มาตรฐาน และเน้นย้ำให้ทุกคนสวมหน้ากากตลาดเวลา งดเปิดบริการเครื่องเล่นในตลาด เช่น ม้าหมุน บ้านบอล

ขณะที่อาหารปรุงสำเร็จในตลาด ให้มีการทำฉากกั้นเพื่อป้องกันละอองไอจามไปสัมผัสอาหาร ต้องย้ำว่าในอดีตแม้ตลาดจะเปิดอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ที่ออกประกาศมาเพื่อให้มีการบังคับใช้มาตรการตามกฎหมาย เพื่อให้ตลาดได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ

ส่วนร้านเสริมสวย ให้บริการได้เพียง ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น ต้องมีการคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้ารับบริการ ไม่ให้มีพื้นที่นั่งคอยในร้าน และให้มีการทำนัดก่อนใช้บริการ ต้องจัดจุดล้างมือและเจลแอลกอฮอล์บริการ โดยต้องเปิดเป็นรอบ รอบละไม่เกิน 2 ชั่วโมง และต้องพักทำความสะอาดไม่ต่ำกว่า 20 นาที โดยอ้างอิงจากเวลาการตัดผมของผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน ให้เจ้าของร้านลงเวลาทำความสะอาดไว้เป็นหลักฐานด้วย

จัดเก้าอี้ทำผมให้ห่างกัน 1-2 เมตร ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมกันด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งหลังมีผู้ใช้บริการ และต้องจดบันทึกผู้มาใช้บริการทุกคน สำหรับกรณีผู้มาใช้บริการติดเชื้อจะได้ตรวจสอบได้

ผู้ให้บริการต้องใส่หน้ากากและใส่เฟซชิลด์ด้วย งดเว้นการตัดขนจมูก แคะหู ล้างตา นวด แคะ แกะ เกา จับใบหน้าของผู้ใช้บริการ ระหว่างสระผม ผู้ใช้บริการต้องใช้หน้ากากกันสเปร์ โดยหน้ากากต้องทำความสะอาดทุกครั้ง ย้ำว่าทั้งพนักงานและผู้ใช้บริการห้ามรับประทานอาหารในร้านเด็ดขาด

ส่วนโรงพยาบาล สถานพยาบาล และคลินิก ซึ่งไม่รวมคลินิกเสริมความงาม หรือคลินิกลดน้ำหนัก ในส่วนนี้ต้องรอมาตรการจากสาธารณสุขเพื่อให้มีมาตรการที่เหมือนกันในการป้องกันโควิด-19

ทางด้านสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ ให้มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิ ให้เว้นระยะห่าง 1.5 เมตรในพื้นที่ส่วนลางที่ใช้ร่วมกัน หรือ คลับเฮ้าส์ และให้มีการเข้า-ออกทางเดียว ในส่วนที่เป็นร้านอาหารให้ใช้มาตรการเดียวกันกับร้านอาหารที่กล่าวไปแล้ว ให้งดกิจกรรมรวมกลุ่มระหว่างการเล่น ห้ามจัดแข่งขันทุกประเภท ทั้งรายการและบุคคล ทำความสะอาดพื้นที่ ห้องน้ำ และให้บันทึกชื่อ เบอร์โทรศัพท์ วัน เวลา ผู้รับบริการทุกคน และมีการนัดคิวก่อนใช้บริการ ขณที่พนักงานต้องใส่หน้ากากและใส่เฟซชิลด์ แคตดี้ต้องทำความสะอาดรถกอล์ฟโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อและวิธีการที่ถูกต้อง และต้องอยู่ห่างลูกค้าอย่างน้อย 1.5 เมตร และห้ามพนักงานหรือแคตดี้รวมกลุ่มกัน

ในส่วนของสนามกีฬา สามารถเปิดได้ 3 ประเภทก่อน คือ สนามวิ่ง สนามเทนนิส และสนามแบดมินตัน โดยอาจจะมีการอนุมัติเปิดเพิ่มต่อไป สำหรับมาตรการต้องมีจุดคัดกรอง ให้เว้นระยะห่าง 1.5 เมตรในพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน และให้มีการเข้า-ออกทางเดียว ห้ามจัดการแข่งขันหรือรวมกลุ่มกัน จำกัดจำนวนผู้เล่นต่อสนาม ห้ามมีผู้ชม จัดให้มีการบันทึกชื่อ เบอร์โทรศัพท์ วัน เวลา ผู้รับบริการทุกคน และมีการนัดคิวก่อนใช้บริการ

สวนสาธารณะทั้งของรัฐและเอกชน ต้องมีจุดคัดกรอง มีเจลแอลกอฮอล์ จำกัดทางเข้า-ออก ต้องเว้นระยะห่าง ต้องมีการออกกำลังกายที่ไม่รวมกลุ่ม เช่น วิ่ง แบดมินตัน เดิน ขี่จักรยานต์ งดเว้นการออกกำลังกายแบบรวมกลุ่ม เช่น เต้นแอโรบิก รำมวยจีน ไทเก๊ก บาสเกตบอล ฟุตบอล งดเล่นเครื่องออกกำลังกายในสวมสาธารณะ งดเว้นการจับกลุ่มนั่งคุยกัน และกำหนดให้มีการทำความสะอาดห้องน้ำ

สำหรับร้านตัดขนสุนัข จัดให้มีการคัดกรองผู้มาใช้บริการ งดให้บริการผู้มาใช้บริการแบบวอล์กอิน ให้มีการนัดหมายล่วงหน้า จัดเจลแอลกอฮอล์ และกำหนดให้มีการบริการเป็นรอบๆ ละ 2 ชั่วโมง และพักทำความสะอาดไม่ต่ำกว่า 20 นาที ให้ทำตารางลงเวลาไว้เป็นหลักฐาน ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน และจัดให้มีการบันทึกชื่อ เบอร์โทรศัพท์ วัน เวลา ผู้รับบริการทุกคน โดยต้องมีการซักประวัติเสี่ยงโควิด-19 เจ้าของสัตว์ทุกคน

นอกจากนี้ ได้ต่ออายุสถานที่ที่ทำการปิดทั้งหมดที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งผับ บาร์ สถานบันเทิง เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้ปิดถึงวันที่ 31 พ.ค. ที่ กทม.ต้องประกาศในวันนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมในการเปลี่ยนแปลงมาตรการ เมื่อ ศบค.กำหนดวันที่ชัดเจนแล้ว จะได้สามารถดำเนินการได้ทันที โดยมติให้อำนาจผู้ว่าฯ กทม. ได้ออกประกาศทันที หากมีการกำหนดจาก ศบค.ที่ชัดเจน

สำหรับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หาก ศบค.ให้งดจำหน่ายต่อ กทม.ก็จะให้งดจำหน่ายต่อเช่นเดียวกัน แต่หาก ศบค.อนุญาตให้จำหน่าย กทม.จะมีการพิจารณาเร่งด่วนอีกครั้งเพื่อออกประกาศต่อไป แต่ต้องการให้ดำเนินการสอดคล้องกับภาพรวมทั่วประเทศ

มาตรการที่อธิบายไปนั้น เป็นการบังคับบางส่วน อีกบางส่วนเป็นการแนะนำ เพราะแต่ละสถานประกอบการก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น ร้านตัดผมในชุมชน อาจจะหาเครื่องวัดอุณหภูมิไม่ได้ กทม.ก็จะเข้าช่วยเหลือจัดหาให้เบื้องต้น แต่หากทำไม่ได้ก็จะแนะนำข้อปฏิบัติอื่นต่อไป

สำหรับโทษของสถานประกอบการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อบังคับที่ประกาศออกมา โดยหน่วยงานจะลงพื้นที่ให้คำแนะนำก่อน เพื่อให้ทำตามมาตรการได้ แต่หากตรวจสอบพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการทั้งที่รู้อยู่แล้ว ก็จะดำเนินการสั่งปิดต่อไป