อาเซียนเป็นปลื้ม! โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดงในรอบ 5 ปี

.ลงนาม “อาร์เซ็ป” ความตกลงค้าเสรีใหญ่สุดในโลก

.ลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็น 0% เกือบครบทุกสินค้า

.คลอดมาตรฐานร่วมไฟฟ้า อาหารสำเร็จรูป ยา รถยนต์

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา อาเซียนได้จัดประชุมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ความคืบหน้าครบครึ่งทางการทำงานตามพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 (AEC Blueprint 2025) หลังจากสมาชิกได้เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เอดีซี) เมื่อเดือนธ.ค.58 สำหรับผลงานสำคัญของอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เช่น และการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ซึ่งเป็นเอฟทีเอขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และจะช่วยขยายโอกาสและสร้างแต้มต่อให้สินค้าไทยในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิก, การลดภาษีสินค้านำเข้าระหว่างอาเซียน ให้เหลือ 0% ดำเนินการแล้ว 98.6%

นอกจากนี้ ยังมีการใช้งานระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน, การเชื่อมโยงและใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของ, การลงนามข้อตกลงยอมรับร่วม (เอ็มอาร์เอ) ในด้านมาตรฐาน สาขาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยา อาหารสำเร็จรูป และยานยนต์และชิ้นส่วน ทำให้เมื่อตรวจมาตรฐานจากประเทศต้นทางแล้ว ไม่ต้องตรวจซ้ำที่ประเทศปลายทางอีก, การลงนามความตกลงการค้าบริการของอาเซียนฉบับใหม่, การจัดทำความตกลงว่าด้วยพาณิชย์เล็กทรอนิกส์ของอาเซียน เพื่ออำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนและสร้างความเชื่อมั่นในการทำการค้าออนไลน์  

ส่วนการทำงานตามพิมพ์เขียว 23 ด้าน เช่น การค้าสินค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า การค้าบริการ ทรัพย์สินทางปัญญา และการมีความสัมพันธ์กับประเทศนอกอาเซียนนั้น พบว่า การทำงานคืบหน้ามาก โดยการทำให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งเกี่ยวกับการลดเลิกมาตรการภาษี การยกเลิก/ลดมาตรการที่มิใช่ภาษี การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนเพิ่มขึ้น ดำเนินการแล้ว 60.3% จาก 517 มาตรการที่ต้องดำเนินการ 

ขณะที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดำเนินการแล้ว 42.1% จาก 337 มาตรการ, การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในสาขาสำคัญ ดำเนินการแล้ว 52% จาก 734 มาตรการ, การดำเนินมาตรการเพื่อให้อาเซียนสามารถปรับตัวและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน ดำเนินการแล้ว 43.5% จาก 131 มาตรการ และการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาค ดำเนินการแล้ว 54.5% จาก 33 มาตรการที่ต้องดำเนินการ