“อนุทิน” สั่ง สปสช.เพิ่มคู่สาย รับผู้ป่วยโควิด-19 เข้าระบบรักษา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยระบุว่า ได้รับรายงานจาก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลที่เข้ามาระบบสาธารณสุขยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ เราให้ความสำคัญเรื่องระดับการป่วย ต้องสัมพันธ์กับการรักษา หาไม่มีอาการ ไม่มีโรคร่วม ให้รักษาที่บ้าน ในระบบ Home Isolation หากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ให้เข้ารักษาในระบบ Community Isolation ซึ่งทางกทม. ประสานมาแล้ว ว่ามีความพร้อมในการดูแลจัดการ สำหรับกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการไปยังเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ให้เพิ่มคู่สายด่วนการรับแจ้งผู้ติดเชื้อเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา 

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ระบบ UCEP ยังให้บริการผู้ป่วยโควิด หากมีอาการป่วยฉุกเฉินวิกฤติตามเกณฑ์ของ UCEP ยังสามารถรักษาฟรีได้ทุกที่เช่นเดิม นอกจากนี้ หากติดเชื้อแล้วมีโรคร่วม หรือมีอาการอยู่ในกลุ่มสีเหลือง สีแดง ก็ยังสามารถใช้สิทธิรักษาได้ทุกที่ตามสิทธิ UCEP พลัส ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำเกณฑ์ ได้ลงนามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป การรักษาผู้ติดโควิด-19 จะเป็นไปตามสิทธิรักษาพยาบาลตามสิทธิ์ของประชาชน ขอย้ำว่า ประชาชนยังได้รับการรักษาฟรี ตามสิทธ์ที่มีอยู่ การให้บริการของประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนั้น ในส่วนของการรรักษาผู้ป่วย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้มาหารือเรื่องการปรับเพิ่มปริมาณการใช้ยาฟ้าทะลายโจร เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เราสามารถหายาฟ้าทะลายโจรเพิ่มได้หลาย 10 ล้านเม็ดได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตภายในประเทศ สามารถให้ไปพร้อมกับชุดดูแลผู้ป่วยในระบบ Home Isolation ภายใต้การพิจารณาของแพทย์ 

“ความคืบหน้าของนโยบายกัญชา ตอนนี้ มีการระบุชื่ออย่างชัดเจนว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดที่มี THC เกินกว่า 0.2% ของน้ำหนัก มีผลบังคับใช้ 120 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาตอนนี้ทางท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งเรื่องไปให้ นายกรัฐมนตรี พิจารณาในเรื่องของพระราชบัญญัติการเงินซึ่งต้องได้รับการเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ กำลังเดินหน้าตามกระบวนการ” นายอนุทิน กล่าว