“องอาจ” แนะเบรกจัดซื้อเรือดำน้ำ โยนงบแก้เรื่องปากท้องประชาชน เกิดประโยชน์กว่าในยามนี้

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน .พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง ...งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 สภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ผ่านงบฯ จัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ 2 ลำวงเงิน 22,500 ล้านบาท ว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะใช้เงินจำนวนมากไปซื้อเรือดำน้ำ ในขณะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเรื่องโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนจำนวนมาก

นายองอาจ กล่าวว่า เราควรยอมรับความจริงว่าขณะนี้เศรษฐกิจฝืดเคือง คนหาเช้ากินค่ำมีชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง โดยคนจำนวนมากวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นตราบใดที่สถานการณ์โควิด-19 ยังต้องอยู่กับเราไปอย่างไม่มีกำหนดแน่นอนว่าจะคลี่คลายเมื่อไร 

ขณะที่ประเทศไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีวัคซีนใช้ได้เมื่อไร รวมถึงอาจมีโควิด-19 ระบาดขึ้นรอบที่สองก็เป็นได้ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนมากขึ้นไปอีก ดังนั้นการใช้จ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์ของภาครัฐ จึงควรใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคมที่ไม่ปกติอยู่ในปัจจุบัน

แม้กองทัพเรือจะอ้างว่าการมีเรือดำน้ำเป็นความจำเป็นทางด้านความมั่นคง แต่ในขณะที่บ้านเมืองยังมีปัญหาโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สังคม ซ้ำเติมประเทศชาติและประชาชนอยู่แบบนี้ ควรนำงบประมาณไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนจะดีกว่า จนกว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติค่อยพิจารณากันใหม่ก็ได้” นายองอาจ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ภาครัฐมีความกังวลว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนนั้น ไม่น่าจะกังวลแต่อย่างใดเพราะจีนก็ทราบดีว่าไทยได้รับผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด-19 เหมือนกัน ซึ่งก็เชื่อว่าจีนน่าจะเข้าใจและเห็นใจประเทศไทยมากกว่า ซึ่งก็ขอเรียกร้องให้ทบทวนชะลอการซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาทออกไปก่อน เพื่อนำงบประมาณไปใช้จ่ายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอย่างมากอยู่ขณะนี้