หอการค้าไทย จี้รัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

“หอการค้าไทย” แนะรัฐบาลใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจทันที แจกเงินดิจิทัลแบบเฉพาะกลุ่ม ย้ำ รมว.คลัง ต้องเป็นคนเก่ง

  • แนะ “แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น” แบบพุ่งเป้าเฉพาะกลุ่ม
  • ไม่ช่วยแบบหว่านแหเหตุใช้เงินสูงถึง 5 แสนล้านบาท
  • หวั่นกระทบฐานะการคลัง ส่วน รมว.คลัง ต้องเก่ง เป็นที่ยอมรับ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนเห็นทิศทางชัดเจนมากขึ้นของการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้ง แต่สิ่งสำคัญคือเสถียรภาพของรัฐบาล ที่จะต้องมีเสียงเพียงพอและเข้มแข็ง เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความต่อเนื่อง อีกทั้งยังมั่นใจว่า น่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ได้ภายในเดือนส.ค. – ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ช้าเกินไป สำหรับเศรษฐกิจไทยยังคงน่ากังวล โดยเฉพาะกำลังซื้อของประชาชน ที่สะท้อนจากการซื้อสินค้าคงทนตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย.มีแนวโน้มลดลงเป็นสัญญาณว่าประชาชนไม่มีรายได้ และระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

ดังนั้น จำเป็นต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทันทีเช่นเดียวกับที่เคยทำในช่วงที่ผ่านมา เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อดึงกำลังซื้อประชาขนให้กลับมา หรือนำเอานโยบายที่ใช้หาเสียง อย่าง แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท มาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจแบบทันที ในหลักการสามารถทำได้ แต่ต้องประเมินผลความคุ้มค่าในแง่เศรษฐกิจให้ชัดเจนและรอบด้านเพราะเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณมหาศาล

อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทย มีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว ดังนี้ 1.การอัดฉีดเม็ดเงินไปยังกลุ่มผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป น่าจะอยู่ราวๆ 50 ล้านคน หากใช้เงิน 10,000 บาทต่อคนจะต้องใช้งบประมาณราว 500,000 ล้านบาท ซึ่งหากเงินถึงมือประชาชนโดยตรง จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

“หอการค้าฯ ประเมินว่า เม็ดเงินทุกๆ 100,000-150,000 ล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 1% ดังนั้น นโยบายนี้น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 2.5 – 3% เกิดเม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ 3 – 4 รอบ แต่นโยบายนี้ ยังมีข้อเป็นห่วงจากหลายฝ่าย ทั้งในเรื่องที่มาของแหล่งงบประมาณ จะกระทบต่อฐานะการคลังเพียงใด ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนในส่วนนี้”

นอกจากนี้ หอการค้าไทยขอให้พิจารณาแนวทางการใช้นโยบายสนับสนุนและจูงใจผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีให้ถูกต้องมากขึ้น เพราะร้านค้าขนาดกลาง และขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการขยายฐานภาษีและจัดเก็บรายได้ให้กับประเทศเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

2.พิจารณาแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทแบบพุ่งเป้าไปยังกลุ่มที่เดือนร้อนหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือก่อน เพราะจะได้ไม่ต้องใช้งบประมาณที่สูงจนเกินไป และนำงบประมาณบางส่วนไปใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน หรือการลงทุนในสาธารณประโยชน์ ภายใต้การคำนึงถึงความคุ้มค่าและไม่สร้างภาระทางการคลังของประเทศ

“หอการค้าไทยยังคงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ 3.0 – 3.5% และปีหน้าจะเติบโตอย่างเต็มที่จากแรงขับเคลื่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้น หวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปอย่างรวดเร็วเรียบร้อย และมีเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายต่างๆ ในการเดินหน้าเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง”

สำหรับผู้ที่จะมาเป็นของ รมว.คลัง นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วนว่าจะสามารถนำเสนอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างรวดเร็ว และตรงจุด