‘สุชาติ’ เผย ขึ้น ‘ค่าแรง 600’ อันตรายที่สุด หวั่นซ้ำรอย 2554

  • แนะยึดหลักไตรภาคี
  • พร้อมเผยเหตุผล ไม่ลง สส.เแบ่งเขต
  • ต้องการช่วย ‘บิ๊กตู่’ ทำงานทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขึ้นกล่าวในเวทีปราศรัยนายรณเทพ อนุวัฒน์ หรือ สส.หนวด ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 ชลบุรี เบอร์ 7 ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ (โรงไม้ขีดเก่า) เทศบาลเมืองพนัสนิคม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เมื่อวาน (29 เม.ย. 66 เวลา) บางช่วงได้พูดถึงนโยบาย “ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท” ของพรรคการเมืองหนึ่ง ว่า

เป็นนโยบายที่อันตรายที่สุด โรงงานปิดตัวลง เอสเอ็มอีรับภาระต้นทุนไม่ไหว ค่าครองชีพสูงขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้นเพราะภาคธุรกิจหันมาใช้เทคโนโลยีแทนกำลังคน ซึ่งเคยมีประสบการณ์ช่วงที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศมาแล้วในปี 2554

การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้องยึดมั่นในระบบไตรภาคี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของเศรษฐกิจภูมิภาค จีดีพีรายได้ต่อหัวแต่ละจังหวัดด้วย ไม่ใช่นโยบายค่าแรงที่มาจากนักการเมือง วิธีแก้ปัญหาต้องนำแรงงานมาฝึกทักษะ ฝึกอาชีพ เพื่อให้ได้ค่าแรงตามมาตรฐานฝีมือที่ได้ประกาศไปแล้วใน ครม.ไปแล้ว 129 สาขาอาชีพ พี่น้องผู้ใช้แรงงานจะได้พ้นกับดักค่าแรงขั้นต่ำ

นอกจากนี้ยังพูดถึงสาเหตุตัดสินใจสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ไม่ลงสมัครสส.แบบแบ่งเขต แบบเดิมเหมือนปี 2562 ว่า เนื่องจากถ้าลงสมัคร เขต 1 ชลบุรี จะได้เป็น สส.คนเดียว แต่ถ้าขึ้นบัญชีรายชื่อสามารถไปช่วยลุงตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) หาเสียงได้ทั้งประเทศ และลงไปช่วยผู้สมัครทุกเขตได้ ตนและทีมเฮ้งพึ่งได้ปวารณาตัวว่า ขอเป็นผู้แทนราษฎรของจังหวัดชลบุรีทั้ง 10 เขต พร้อมเดินสายไปพบปะรับใช้ทุกอำเภอ พี่น้องชาวชลบุรีจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ได้ สส. ที่เป็นผู้รับใช้ประชาชนทั้งจังหวัดชลบุรี

สำหรับการปราศรัยส่วนใหญ่เน้นไปที่ผลงานและนโยบายด้านแรงงาน เนื่องจากนายสุชาติ เป็นรัฐมนตรีแรงงาน สามารถแก้ไขปัญหาโควิดให้กับผู้ใช้แรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบาดตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ภายใน 2 เดือนสามารถเปิดจังหวัดสมุทรสาครได้ปกติ , ทำโครงการแฟคทอรี่แซนบ็อก , ฉีดวัคซีนในโรงงาน โดยไม่ต้องปิดโรงงาน , เปิดสายด่วน 1506 ประสานหาเตียง , ประสานโรงแรมเปิด Hospitel รักษาผู้ประกันตน , เยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด , ลดเงินสมทบ , รักษาธุรกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ , จ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 เป็นต้น

ส่วนนโยบายของ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะขับเคลื่อน อาทิเช่น เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรลุงตู่” ให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็น 1,000 บาทต่อเดือน , ผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ขอ คืนเงินชราภาพผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ , เพิ่มเงินชราภาพ อายุ 55 ปี เป็น 10,000 บาท , เพิ่มเงินเลี้ยงดูแลบุตร จากเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ขวบ ได้ 800 บาท ปรับเป็นเด็กแรกเกิดจนถึง 10 ขวบ ได้ 1,000 บาท , เสนอให้มีโรงพยาบาลประกันสังคมเพื่อรักษาดูแลผู้ประกันตนกว่า 12 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นนโยบายที่คิดไว้ทั้งหมดแล้วเพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน