สงครามการค้ายืดเยื้อ-อัดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ประคอง ซีไอเอ็มบีไทยปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือ2.8%

  • ซีไอเอ็มบีไทยมองสงครามการค้ายืดเยื้อถึงปีหน้า
  • หั่นประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ2.8%
  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ประคับประคองไม่ให้แย่กว่านี้

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทยได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 2.8 % จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 3.3 % โดยปัจจัยหลักมาจากความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่คาดว่าจะยืดเยื้อไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า และความตึงเครียดของสหรัฐฯและจีนยังคงมีอยู่เนื่อง ตราบใดที่ทรัมป์ยังนั่งตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

“สัญญาณชะลอตัวจากภาคต่างประเทศเริ่มลุกลามมาในประเทศไทย ส่งผลให้ภาคการลงทุนเอกชนมีแนวโน้มติดลบครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะภาคการส่งออกมีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง แต่จะไม่รุนแรงเท่าครึ่งปีแรก เมื่อการส่งออกเริ่มมีปัญหาผู้ประกอบการจะปรับลดกำลังการผลิตลง และจะมีผลต่อการนำเข้าเครื่องจักร รวมถึงวัตถุดิบอื่น ๆ เกิดภาวะเงียบเหงา เมื่อภาคเอกชนชะลอการลงทุน จะส่งผลกระทบต่อภาคการบริโภค การจ้างงานจะมีแนวโน้มลดลง และโอทีมีแนวโน้มถูกตัดมากขึ้น”

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่านี้ ด้วยการกระตุ้นการบริโภคระดับล่าง อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังยังหวังที่จะได้เห็นมาตรการกระตุ้นภาคการลงทุน ด้านนโยบายการเงินนั้น มองว่ามีโอกาสจะได้เห็นมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ด้วยการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อีกครั้งไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายภาคเอกชน ประคับประคองภาคการส่งออก กดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงด้วย ส่วนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง คาดปลายปีนี้ค่าเงินบาทจะแตะที่ 30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ