เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 24 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อสมาชิกรัฐสภา โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นตัวแทนรับหนังสือ
โดย น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ของส่วนตัว ขอแถลงการณ์จุดยืน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากเลือกตั้งทั้งหมด ไม่สืบทอดอำนาจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องแก้ได้ทุกหมวด ทุกมาตรา ไม่มีข้อยกเว้น เพราะรัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนในฐานะผู้แทนราษฎร มารับยื่นหนังสือจากตัวแทนคณะราษฎร ตนได้มีการหารือร่วมกับตัวแทนกลุ่มราษฎร และตัวแทนพรรคการเมือง ถึงแนวทางการผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภา ว่าจะมีช่องทางใดบ้างที่จะนำมาสู่การหารือร่วมกันได้ โทรหาขับเคลื่อนเพียงแค่นอกสภาอย่างเดียวคงไม่สำเร็จ แนวทางที่สอง คือ การทำประชามติผ่านทางรัฐสภาและทำผ่านประชาชน ว่าต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการหลังจากรับยื่นหนังสือแล้วนั้น ทุกฝ่ายก็จะนำไปพูดคุยกันในแต่ละพรรคการเมืองว่าจะมีแนวทางการสนับสนุนหรือดำเนินการตามข้อเสนออย่างไร เช่นการเจรจาต่อรองเรื่องการใช้อำนาจระหว่างสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้การคุยอย่างเดียวไม่มีหลักประกัน จึงต้องทำข้อเสนอเชิงหลักประกันเข้าสู่การพิจารณาด้วย คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่นวันนี้หากการยกเลิกอำนาจส.ว.เราก็จะต้องพยายามดำเนินการต่อในสมัยต่อไป
ด้าน นายสิระ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของรัฐบาลมารับหนังสือ โดยจะนำเข้าที่ประชุมวิปรัฐบาล เพื่อไปศึกษาและจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวเสริมด้วยว่า ประชามติเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่การขับเคลื่อนครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ประตูบานแรก คือต้องยกเลิกมาตรา 272 ก่อน หากรัฐสภาแห่งนี้มีความจริงใจ ก็ควรจะต้อง ยกเลิก ม.272 ก่อน หากยกเลิก ม.272 ไม่ได้ วิกฤตในส่วนตรงอื่น ก็ยากที่จะแก้ไขไปต่อ และ วันนี้จะเป็นการปาหี่ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า ผลลงมติ ม.272 จะออกมาอย่างไร หากวันนี้ยกเลิกมาตรา 272 ไม่ได้ ข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎร ก็ยากที่จะบรรลุผล
หลังจากนายรังสิมันต์ กล่าวจบ ทำให้นายสิระ กล่าวแย้งว่า มาตรา 272 จะผ่านหรือไม่ผ่าน ทุกคนมีความคิดเห็นของตนเอง ประชาธิปไตยคือเสียงส่วนใหญ่ ก็ดูว่าเสียงส่วนใหญ่เป็นแบบไหน ในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะได้กี่มาตรานั้นหลังจากนี้ถ้ามีโอกาสก็จะแก้ไขทุกมาตราที่บกพร่อง
นายพริษฐ์ กล่าวว่า “ขอให้ทุกท่านไม่ว่าในใจท่านจะศรัทธาในระบบประชาธิปไตย แต่ทุกท่านที่เป็นผู้แทนวันนี้มายืนอยู่ตรงนี้ด้วยระบอบประชาธิปไตยจะในนามหรือไม่ก็ตามแต่ ขอให้มีกระดูกสันหลังที่ตั้งตนต่อประชาธิปไตยและประชาชนอยู่ในใจของท่านตลอด”
