รัฐบาลชี้ดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนใต้ขยับดีขึ้น อยู่ที่ระดับ 51.87

  • พาณิย์ดันการค้าชายแดน เร่งเปิดด่านเพิ่ม
  • ด้านฝ่ายความมั่นคง เดินหน้าแผนบูรณาการสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมเข้มแข็ง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนใต้ ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มีแนวโน้มดีขึ้นด้วย โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนใต้โดยรวม ไตรมาสที่3 ปี 2564 จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน ราว 34,000 คน ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ปัตตานี ยะลานราธิวาส สงขลา และสตูล   ความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 51.87 ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 50.90 จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมที่มีมากขึ้น

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยินดีต่อผลการสำรวจดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายรัฐที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเน้นทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ สำนักงานโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน 

โดยการดำเนินงานตามแผนบูรณาการที่หนุนเสริมการดำเนินงานใน 2 มิติ คือ 1) การพัฒนาตามศักยภาพพื้นที่ ในระดับฐานราก 290 ตำบล ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความยากจนตามฐานข้อมูล Thai People Map (TPMAP) ประกอบด้วย ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ และด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน 2) การพัฒนาเสริมสร้างความมั่นคง มุ่งเน้น 3 ด้าน คือ ด้านการสร้างความเข้มแข็งสังคมพหุวัฒนธรรม ส่งเสริมให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตตามหลักความเชื่อ ศาสนา การประกอบศาสนกิจ การจัดงานประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ และสร้างความเป็นธรรมและความเท่าเทียม ด้านการเยียวยา โดยมุ่งเน้นเยียวยาทั้งร่างกาย จิตใจ และความสูญเสียทางทรัพย์สินต่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบอย่างทั่วถึงเป็นธรรม และด้านการเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ในการสร้างความร่วมมืออันดีจากองค์กรต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ

น.ส.รัชดา กล่าวถึงนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้ด้วยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิย์ ได้วางแนวทางฟื้นฟูครอบคลุมด้านเกษตรกรรม การค้าชายแดน รวมถึงอุตสาหกรรมในบางพื้นที่และการท่องเที่ยวซึ่งสามารถเดินหน้าต่อไปได้อีกมากเมื่อสถานการณ์โควิด-19 เข้าสู่สภาวะปกติ ขณะเดียวกันยังได้กำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุกผลไม้จังหวัดชายแดนใต้ เพราะสินค้าผลไม้ถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของพื้นที่และจะเร่งแก้ปัญหาการค้าชายแดนที่ด่านโกลก ประสานเปิดด่านเพิ่ม เช่น ด่านบูเก๊ะตา ด่านตากใบ ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือไปถึงมาเลเซีย ทูตพาณิชย์ดำเนินการอยู่ เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีข่าวดีต่อการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียที่จะกลับมาใกล้เคียงดังเดิม รวมทั้งความสำเร็จในการเปิดประเทศจะช่วยเพิ่มการค้าและกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วย