“เพื่อไทย”แถลงขอบคุณ “ก้าวไกล” เตรียมหาเสียงสนับสนุนเพิ่มจากสว.และพรรคการเมืองอื่น “ภูมิธรรม”ลั่น! โหวตนายกฯวันที่27ก.ค.นี้ต้องให้ผ่าน
- การจัดตั้งรัฐบาลเป็นช่องทางที่ทำให้สามารถนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- ถ้าได้ตั้งรัฐบาลสำเร็จมติ ครม.วันแรกจะออกมาเพื่อทำประชามติตั้งสสร.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคร่วมกันแถลงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลโดยนพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ส่งมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิม ตามที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้หารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
พรรคเพื่อไทยเห็นว่าภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคการเมืองเดิม พรรคการเมืองทั้ง 8พรรคสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบเนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า 375 เสียง เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสุนนจาก สมาชิกวุฒิสภา และจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในที่สุด หากผลการดำเนินเป็นประการใด จะได้แจ้งให้ 8 พรรคการเมืองและสาธารณชนทราบต่อไปโดยเร็ว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้คือในการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 27ก.ค.นี้ เมื่อเสนอไปแล้วต้องให้ผ่านความเห็นชอบได้นายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย เพราะขณะนี้ผ่านการเลือกตั้งมา 2เดือนกว่าแล้วจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ การจัดตั้งรัฐบาลเป็นช่องทางที่ทำให้เราสามารถนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าได้ตั้งรัฐบาลสำเร็จ มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันแรกจะออกมาเพื่อให้มีการทำประชามติตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที ซึ่งในการหารือกับ 8 พรรค ปัจจัยอะไรที่เป็นปัญหาในการโหวตนายกรัฐมนตรี พรรคนั้นก็ต้องตอบให้ได้ว่าจะคลี่คลายอย่างไร
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ในเวลา 15.00 น. พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค จะหารือกันในประเด็นต่างๆ แล้วจะแถลงอีกครั้งในเวลา 16.00น.
