พาณิชย์ยันยังไม่คุมราคาขายยา “ฟ้าทะลายโจร”

.หวั่นคุมราคาแล้วทำของหายไปจากตลาด-ขาดแคลน

.ส่งเสริมเกษตรปลูก-ผู้ประกอบการผลิตยาให้มากขึ้น

.แต่เกาะติดราคาลั่นใครขายราคาสูงเกินมีโทษทั้งจำ-ปรับ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่กระแสที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาขายยาฟ้าทะลายโจรว่า กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกันติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายควบคุมราคา เพราะต้องการส่งเสริมให้มีการผลิตจำนวนมากในประเทศ และให้เพียงพอกับความต้องการใช้ก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าเริ่มต้นด้วยการคุมราคาขายแล้ว ในที่สุดจะกลายเป็นดาบสองคมแทนที่จะส่งเสริมให้ผลิตได้มาก เพราะการคุมราคา หากเกษตรกรหรือผู้ประกอบการเห็นว่าขายได้ไม่คุ้ม ก็จะหยุดเพาะปลูก หยุดผลิต สุดท้ายประชาชนจะไม่มียาใช้ จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบและหาจุดสมดุลย์

ทั้งนี้ ขณะนี้ หลายหน่วยงาน อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกฟ้าทะลายโจรให้มากขึ้น เพราะสามารถนำไปทำเป็นยาสมุนไพรได้ แต่เมื่อนำไปบรรจุใส่แคปซูล จะถือว่าเป็นยา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะเข้าไปดูแลการขึ้นทะเบียนตำรับยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงกำกับดูแลทั้งกระบวนการในการผลิตให้ได้มาตรฐาน

“กระทรวงพาณิชย์ และสาธารณสุขติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด โดยส่วนผู้ที่เอาไปขายเป็นยา ต้องขึ้นทะเบียนกับอย.ก่อน ส่วนการขายราคาสูงเกินควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนทางราคา ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามใกล้ชิดเช่นกัน ถ้าพบการค้ากำไรเกินควร หรือขายเกินราคา หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนทางราคา อย่างกรณี พ่อค้าคนกลางนำไปขายโก่งราคา ทำให้เกิดความปั่นป่วน จะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเบาะแสร้องเรียนได้ที่สายด่วนโทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์ทุกจังหวัด จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมาย”

สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ นั้น ก่อนหน้านี้ ได้สั่งการกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ดูแลสถานการณ์ ทั้งราคา และการขายสินค้าอย่างใกล้ชิดแล้ว ซึ่งพบว่า ปริมาณสินค้าไม่ขาดแคลน เพราะได้ประสานกับกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นสถานการณ์จะเปลี่ยนไปมาก ซึ่งยังคาดการณ์ไม่ได้ แต่ผู้ผลิตได้รายงานให้ทราบเป็นระยะว่า สามารถดูแลประชาชนได้ ขณะเดียวกัน ยังได้ประสานผู้ประกอบการห้างต่างๆ ให้เติมสินค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ชั้นวางสินค้าว่าง

“แต่จะต้องช่วยดูแลให้ภาคการผลิตให้เดินหน้า เพราะหลายโรงงานปิดไปเพราะคนงานติดโควิด ซึ่งได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่า ถ้าพื้นที่ใดของโรงงานติดโควิดแล้ว และศบค.สั่งให้ปิดการผลิตนั้น ก็ขอให้ปิดเฉพาะเป็นพื้นที่ หรือเฉพาะหน่วยผลิตที่พบติดเชื้อ ไม่ใช่ปิดทั้งโรงงาน เพราะบางโรงงานมี 10 หน่วยถ้าติดหน่วยเดียว ที่เหลือไม่มีปัญหาก็อย่าไปปิด ไม่เช่นนั้นจะทำให้ของขาด กระทบทั้งการบริโภคในประเทศ และกระทบการส่งออกไปด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค.นี้มาก เพราะมีโรงงานที่ผลิตสินค้าส่งออกปิดไปจำนวนหนึ่ง”