ฝ่ายค้านดาหน้าจี้นายกรัฐมนตรีลาออกปมถวายสัตย์

  • “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ระบุนายกฯถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถือบกพร่อง
  • “วัน นอร์มะทา” ชี้เป็นความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง
  • แนะแก้ปัญหาได้ด้วยการลาออก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายประเด็นนายกรัฐมนตรีกล่าวถวายสัตย์ปฎิญาณตนไม่ครบตามรัฐธรรมนูญว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะต้องปฏิญาณตนตามถ้อยคำที่เขียนไว้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ให้ครบถ้วน แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอ่านข้อความไม่ครบ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงกระทำการเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่บกพร่องไม่ควรให้อภัย เพราะไม่ทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด อีกทั้งยังตัดต่อเปลี่ยนแปลงถ้อยคำเพิ่มเติมด้วย

“นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเขียนในหนังสือหลังม่านการเมืองว่านายกรัฐมนตรีทุกคนจะต้องอ่านถ้อยคำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จะขาดตกบกพร่องหรือแต่งเติมไม่ได้ จึงอยากฝากถามนายวิษณุว่าเหตุใดพล.อ.ประยุทธ์จึงทำได้ และผมเคยถามนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯว่าก่อนที่ส.ส.จะทำหน้าที่ต้องปฏิญาณตนตามข้อความที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งนายสุชาติยืนยันว่าจะต้องอ่านตามถ้อยคำทุกประการ สิ่งที่นายกฯทำจึงไม่ถูกต้อง วันนี้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ได้หวังผลเรื่องการเมือง แต่อยากทำให้ทุกอย่างมีความถูกต้อง และหากสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบจะยิ่งมีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานของรัฐบาล” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ด้านนายวันมูหะมัด นอร์มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน สิ่งที่ยังไม่พูดถึงคือมาตรฐานทางจริยธรรมตามพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของพล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมโดยตำแหน่ง  แต่กลับไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมเสียเอง ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเข้าชื่อจำนวน 1ใน 5 ของรัฐสภายื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา เพื่อส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบตามกระบวนการ หากพบว่ามีมูลความผิดจริงก็ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาต่อไป

“แต่ผมไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เมื่อศาลฎีกาประทับรับฟ้องตามคำฟ้องของป.ป.ช.แล้ว ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา หากมีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกถ่าวหา ผู้ต้องคำพิพากษานั้นต้องพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น จึงอยากแนะนำให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง”