.ของดีของเด่นอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
.ทำรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นปีละกว่า 40 ล้านบาท
.ยันหลังเป็นสินค้าจีไอโกยรายได้เพิ่มขึ้นแน่นอน
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ผ้าไหมปักธงชัย สินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นของไทย นำมาสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน จากการนำจุดแข็งและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่นมาสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอของจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งสิ้น 9 สินค้า ได้แก่ กาแฟดงมะไฟ ไวน์เขาใหญ่ ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ กาแฟวังน้ำเขียว เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน มะขามเทศเพชรโนนไทย ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน และผ้าไหมปักธงชัย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนจีไอเพิ่มอีก 2 สินค้า ได้แก่ ผ้าไหมคึมมะอุบัวลาย และน้อยหน่าปากช่องเขาใหญ่
สำหรับคุณภาพและคุณลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของ “ผ้าไหมปักธงชัย” คือ เนื้อผ้าหนาแน่น มีความมันวาว สีคงทน ไม่ตก ผืนผ้าไม่มีตำหนิ เป็นการทอผ้าไหมตามกรรมวิธีที่ประณีตอันเป็นมรดกทางหัตถกรรมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และผลิต ในพื้นที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมาเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ผ้าไหมปักธงชัย สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนในพื้นที่ปักธงชัยได้ปีละกว่า 40 ล้านบาท แต่เมื่อเป็นสินค้าจีไอแล้ว จะสร้างรายได้ให้มากขึ้นได้แน่นอน
ด้านนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมได้ขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอของไทย ครอบคลุม 77 จังหวัดแล้ว เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการคุ้มครองสินค้าชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคน ในชุมชนท้องถิ่นให้ดีขึ้น และเพื่อให้สินค้าจีไอ เป็นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ กรมฯได้ผลักดันให้จังหวัดให้ความสำคัญในการจัดทำระบบควบคุมมาตรฐาน สินค้าจีไอที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าจีไอ และสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้า ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ ทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
