ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จี้รัฐทบทวนมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

  • ภาคเอกชนภูเก็ต พังงา กระบี่ กังวล!!  
  • จึงทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีพิจารณาทบทวน
  • ปรับมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมสปาเพื่อสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมป่าตอง สมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา  ได้ทำหนังสือลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและสำเนาถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (นายยุทธศักดิ์ สุภสร)  

สำหรับสาระสำคัญ มีดังนี้ จากการที่ประเทศจีนได้เปลี่ยนนโยบายควบคุมโควิด19 ทำให้ประเทศไทยได้ออกมาตรการในการรับนักท่องเที่ยวซึ่งทางรัฐบาลชูนโยบายยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติไม่เลือกปฏิบัติ เป็นผลให้ทางกระทรวง สาธารณสุขได้ออกแนวทางดังต่อไปนี้

1.ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม
2. หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT- PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด 19
3. แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ
4. หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ

ทางภาคเอกชนเข้าใจถึงแนวทางที่ถูกกำหนดมาข้างต้นและความเป็นห่วงของรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามเอกชนมีความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมาตรการที่ 1 ในการดำเนินการและกระบวนการตรวจสอบที่กำหนดให้ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม เนื่องจากมาตรการนี้จะบังคับใช้กับผู้เดินทางทุกราย

ทั้งนี้ทางภาคเอกชนได้รับการติดต่อจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่แสดงความเป็นกังวลต่อมาตรการดังกล่าวซึ่งจะเป็นการเพิ่มความยุ่งยากในการเดินทาง ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักในปัจจุบันอาจตัดสินใจยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย และเลือกที่จะเดินทางไปจุดหมายปลายทางอื่น เนื่องจากขณะนี้ประเทศหลักที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เช่น ประเทศในทวีปยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย ได้ยกเลิกมาตรการโควิด19 ทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการยกระดับมาตรการดังกล่าวจักทำให้ประเทศต่าง ๆกังวลกับมาตรการที่ย้อนกลับของประเทศไทยที่จะบังคับใช้กับทุกประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม

ดังนั้นทางภาคเอกชนจึงขอเสนอให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายจำกัดการบังคับวัคซีน 2 เข็มเฉพาะกับผู้เดินทางจากประเทศที่มีมาตรการบังคับทำ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศเท่านั้น (ดังเช่นในมาตรการ ข้อที่ 2) เนื่องจากประเทศที่ยังให้ตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศอาจยังมีความกังวลเรื่องการระบาดที่ยังไม่จบในพื้นที่

ส่วนในประเทศที่ไม่มีมาตรการตรวจ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศขอให้งดเว้นการตรวจการฉีดวัคซีน 2 เข็ม เนื่องจากส่วนใหญ่ในประเทศที่ไม่มีมาตรการเหล่านั้น การระบาดของโรคได้ผ่านพ้นกลายเป็นโรคประจำถิ่นที่ไม่เฝ้าระวังแล้วอีกทั้งประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนมากกว่า 2เข็มแล้ว 

ขณะนี้การท่องเที่ยวของประเทศได้ฟื้นกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งจะเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ เอกชนขอให้ท่านพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าวเพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นโดยเร็วที่สุด จักเป็นพระคุณยิ่ง