ผบ.ตร.นำทีมแถลง “ผกก.โจ้” ยอมรับผิดทุกอย่าง ลั่นคิดฆ่าตัวตาย ด้านตำรวจเผยมีเก๋งปริศนา ขับพามามอบตัวถึงหน้า สภ.แสนสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ส.ค.64) เมื่อเวลา 21.43 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 รวมกันแถลงข่าวการจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยในการแถลงข่าวนั้นได้ให้ทาง ผู้กำกับโจ้ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ 

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า การแถลงข่าวจับกุม ผู้กำกับโจ้ ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานอย่างจริงจัง ไม่มีการละเว้นการกระทำของตำรวจที่ทำผิดแต่อย่างใด โดยจะดำเนินคดีตามข้อกฎหมายแน่นอน 

จากนั้นก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้ สอบถามพูดคุยกับทาง ผู้กำกับโจ้ผ่านมางโทรศัพท์ โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวได้กระหน่ำยิงคำถามกันอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้มีผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่ทำไปเพราะอะไร โดยทางผู้กำกับโจ้ ได้กล่าวตอบว่า ตนเองขอรับผิดในสิ่งที่ทำไปว่าไม่ถูกต้อง โดยทำไปเพราะเพียงต้องการจัดการเรื่องยาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยมิได้มีเจตนาจะฆ่าผู้ต้องหา หรือข่มขู่เรียกเงินแต่อย่างใด ที่ทำไปเพราะต้องการหาเบาะแสยาเสพติดที่เหลือว่าอยู่ไหน

ทั้งนี้มีการถามด้วยว่าเหตุใด จึงมีการสั่งถอดกล้องวงจรปิดให้ห้องดังกล่าว โดยทางผู้กำกับโจ้ ตอบว่า ก่อนหน้านี้กล้องวงจรปิดบ้างตัวพัง จึงได้สั่งถอด และให้ติดตั้งกล้องใหม่ โดยไม่ได้มีเจตนาถอดกล้องวงจรปิด ทำลายหลักฐานแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองขอรับผิดเพียงผู้เดียว ในส่วนของลูกน้องอีก 6 นาย ที่อยู่ในคลิปการกระทำดังกล่าวทำตามคำสั่งของตนเอง ซึ่งการที่ใช้ถุงดำ ถุงพลาสติก มาคลุมที่ศรีษะผู้ต้องหานั้น เพราะไม่ต้องการให้เห็นใบหน้าของตนเอง ยืนยันว่าลูกน้องทุกคนทำไปเพราะตนเองเป็นผู้ออกคำสั่งให้ทำ

อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตลอดอายุการรับราชการตำรวจมา ตนเองไม่เคยมีการทุจริตเรื่องเงินทอง ตั้งใจทำงานอย่างแท้จริง

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามอีกว่า ทำไมต้องที่ผู้ต้องหาเสียชีวิต ไม่รีบทำเรื่องเรียนผู้บังคับบัญชาโดยด่วน โดยทางผู้กำกับโจ้ตอบว่า ในตอนนั้นที่เกิดเหตุตนรู้สึกตกใจอย่างมาก ซึ่งก็รีบให้ลูกน้องมาช่วยปั๊มหัวใจผู้ต้องหาเพื่อช่วยชีวิตรวมถึงต้องรอผลชันสูตรพลิกศพถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดก่อน 

โดยผู้กำกับโจ้ ยังกล่าวด้วยว่า มีการสอบถามทางแฟนสาวของผู้เสียชีวิต ก็มีการบอกกล่าวว่าผู้เสียชีวิต มีการเสพยาเสพติดเยอะ พร้อมกันนี้ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยให้วิธีการเช่นนี้ในการสอบสวนคดีแต่อย่างใด ที่ทำไปนั้นเพราะต้องการเอาข้อมูลจากผู้ต้องหาเท่านั้น ซึ่งการที่ตนเองมาลงมือสอบสวนผู้ต้องหานี้เอง เพราะสืบทราบมาว่าจะเป็นการจัดส่งล็อตใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง

“ตอนที่ผู้ต้องหานิ่งสลบไป ผมยังนึกว่าน้องเขาแก้ทำด้วยซ้ำ ยอมรับว่าตนเองตกใจมากที่เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น” ผู้กำกับโจ้กล่าว

จากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้กล่าวขอให้ผู้สื่อข่าวหยุดการซักถามลง เพราะบ้างคำถามจะมีผลต่อสำนวนคดีได้ จึงขอยุติการตอบคำถามของผู้กำกับโจ้เพียงเท่านั้น

โดยจากนั้นได้ให้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 กล่าวถึงวินาทีที่เข้าไปรับตัวผู้กำกับโจ้ มาดำเนินคดี โดยพล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า วานนี้ (25 ส.ค.64) เวลาประมาณ 23.00 น. มีเบอร์โทรไม่ขึ้นชื่อโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของตน โดยตากการรับสายก็ทาาบว่าเป็นผู้กำกับโจ้เป็นผู้โทรมาว่า “สวัสดีครับผมโจ้นะครับ ผมอยากตาย ผมไม่ไหวแล้ว”

พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า ตอนนั้นก็ได้บอกให้ผู้กำกับโจ้ ใจเย็นๆก่อน และกล่าวบอกว่าไม่ให้ฆ่าตัวตาย พร้อมบอกว่าหากเป็นลูกผู้ชายจริง ก็ควรกล้ามารับผิดในสิ่งที่ตนเองได้กระทำไป พร้อมบอกไปว่า หากตายไปแล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นอย่างไงต่อไป 

จากนั้นทางผู้กำกับโจ้ ได้ตัดสินใจตอบรับขอเข้ามอบตัว โดยให้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ เดินทางไปรับตัวด้วยตนเองที่หน้าสภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ในวันรุ่งขึ้นในช่วงเวลา 16.00 น. โดยทางผู้กำกับโจ้ยังได้กล่าวย้ำให้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ เดินทางมาคนเดียว และห้ามพกอาวุธติดตัวมาด้วย

พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า จากนั้นตนเองก็เดินทางไปรับตัวผู้กำกับโจ้ ตามที่ตกลงกันไว้ โดยก่อนไปถึง สภ.แสนสุขก็ได้โทรเข้ามาสิบถามอีกครั้งว่าใกล้ถึงที่นัดหมายหรือยัง 

“พอไปถึงที่หน้า สภ.แสนสุข ได้ประมาณ 15 นาที ก็สังเกตเห็นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินลงจากรถเก๋งสีขาว และตรงมาที่ตนเอง โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยแบบมิดชิด และเข้ามาบอกว่าผมโจ้ครับ จากนั้นตนจึงรีบหันไปที่รถเก๋งคันดังกล่าวเพื่อที่จะดูป้ายทะเบียน แต่ก็ไม่ทันเพราะรถคันดังกล่าวไปขับออกไปแล้ว” พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าว

จากนั้นตนก็ได้นำผู้กำกับโจ้ ไปลงบันทึกการจับกุมที่ สภ.แสนสุข พร้อมนำเรื่องเรียนทาง ผบ.ตร. ต่อไป และนำตัวผู้กำกับโจ้กลับมาที่กองปราบปราม