ประธานเฟดนิวยอร์กชี้ครัวเรือน-ภาคธุรกิจกู้เงินสุดยาก

.หลังธนาคารสหรัฐฯแห่เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ
.ป้องกันแบงก์ล้มเหมือนซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์
.หวั่นกระทบการใช้จ่าย ทำธุรกิจ และเศรษฐกิจประเทศ

ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เผยแม้ขณะนี้ธนาคารของสหรัฐฯมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยากขึ้น เหตุธนาคารเพิ่มความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ หลังเกิดเหตุธนาคารล้มละลายครั้งใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ


นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยในงานเสวนา ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กว่า ระบบธนาคารของเรามีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นก็จริง แต่การล้มละลายของธนาคารระดับภูมิภาค ส่งผลให้ภาคธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยกู้ ซึ่งจะทำให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อได้น้อยลง และท้ายที่สุดจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย


“ผมมองว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุถึงความรุนแรงของผลกระทบ และเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าผลกระทบครั้งนี้ จะเกิดขึ้นนานเพียงใด ผมกำลังจับตาภาวะสินเชื่ออย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจ”


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) เมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งส่งผลให้ตลาดปั่นป่วนอย่างหนักนั้น ได้ผลักดันให้เฟด และหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร ประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารเป็นวงกว้าง


การแสดงความเห็นของนายวิลเลียมส์ครั้งนี้ สอดคล้องกับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของเฟด หรือ Beige Book ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการจ้างงานชะลอ และการเข้าถึงสินเชื่อลดลง หลังจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ