ททท.LOI ค่ายใหญ่ Fliggy จีน ดึงผู้ใช้ 500 ล้านรายเที่ยวไทย

ททท.เปิดบ้านลงนาม LOI กับค่ายใหญ่จีน “แอปพลิเคชั่น Fliggy” ของอลีบาบา กรุ๊ป มีเครือข่ายผู้ใช้บริการทั่วจีนกว่า 500 ล้านราย ผนึกความร่วมมือเดินหน้าทำ 5 เรื่อง ตั้งเป้าฟื้นกำลังซื้อจีนกลุ่มคุณภาพเที่ยวไทยแบบโตวันโตคืน

  • ททท.ผนึกแพลตฟอร์ม Fliggy รุกภารกิจใหญ่ดึงจีนเที่ยวไทยใช้เงินสูง56,000บาท/คน/ทริป
  • ลุยทำ 5 เรื่อง “ใช้สมาร์ทเทคโนโลยี-ส่งเสริมการขาย-ผลิตแคมเปญตลาด-เสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่-พีอาร์”
  • 11 เดือนแรก ม.ค.-22 พ.ย.66 จีนเที่ยวไทยทะลุ 3 ล้านคนแล้วจร้า

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ระหว่างนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ Mr. Tyrion Tong รองประธานบริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology ในเครือยักษ์ใหญ่อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) เพื่อผนึกกำลังกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน และสร้างเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย

โดย ททท.พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับแอปพลิเคชั่น Fliggy ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางช่วยเสริมมาตรการยกเลิกการตรวจลงตราทางการท่องเที่ยวให้นักเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐบาลไทยช่วง 5 เดือน เริ่มเมื่อ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกับได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในตลาดจีน ใช้ดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของไทยให้พร้อมรองรับนักเดินทางกลุ่มคุณภาพจากจีนด้วย

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ททท. กล่าวว่า ได้ลงนามหนังสือเจตจำนงครั้งนี้ จะเป็นผลดีเพิ่มขึ้นที่จะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยปัจจุบันโครงสร้างเปลี่ยนแปลงไป นักท่องเที่ยวจีนเดินทางอิสระโดยลำพัง (FIT :Free Individual Travel ) มีสูงถึง 86 % เป็นกลุ่มศักยภาพมีกำลังซื้อ พำนักเฉลี่ย 7.88 คืน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเฉลี่ย 56,000 บาท/คน/ทริป สูงขึ้นกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ส่วนข้อมูลจาก Alipay บริษัทในเครืออาลีบาบากรุ๊ปยืนยันนักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินผ่านบริการอลีเพย์เพื่อการท่องเที่ยว ยังไม่รวมค่าที่พักสูงถึง 20,000 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้น 80 % เมื่อเทียบกับปี 2562

ดังนั้นการลงนามของ ททท.กับแอปพลิเคชั่น Fliggy แพลตฟอร์มบริการด้านท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมของจีนซึ่งมีบัญชีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านบัญชี และมีบริการครบวงจร หรือ One Stop Service ครอบคลุม ตั้งแต่การสำรองตั๋วโดยสารเครื่องบิน ที่พัก ทัวร์ส่วนตัว จะเพิ่มโอกาสให้ไทยได้นำเสนอสินค้าและบริการคุณภาพในตลาดจีนผ่านแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพได้รับความนิยมสูง ไปพร้อมกับเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เชิงบวก ฟื้นฟูความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทยในตลาดจีน เร่งกระตุ้นรายได้ตลาดจีนสูงขึ้นด้วย

ตามเป้าหมายการลงนาม LOI ระหว่าง ททท. กับแอปพลิเคชัน Fliggy ครั้งนี้ จะร่วมมือกันขับเคลื่อนครอบคลุม 5 เรื่อง ได้แก่ 1.จะร่วมกันนำสมาร์ทเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับประสบการณ์ในการท่องเที่ยว 2.บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง การนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยบนแพลตฟอร์ม Fliggy 3.ส่งเสริมและนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพแก่นักท่องเที่ยวจีน 4.ร่วมกันผลิตและเผยแพร่เนื้อหาประชาสัมพันธ์สำหรับตลาดจีน 5.ร่วมกันจัดแคมเปญส่งเสริมตลาดด้วยอีเว้นท์ และเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน Golden Week และอื่น ๆ

ซึ่งทางผู้บริหารแอปพลิเคชั่น Fliggy จะจัดทีมบริการให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวจีนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในรูปแบบออนไลน์และศูนย์ให้บริการข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ที่กำหนด ส่วน ททท. จะสนับสนุนจัดการอบรมและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ของ Fliggy ทำงานเคียงข้างกันอย่างเข้มแข็งต่อไป

ขณะที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรายงานข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 พฤศจิกายน 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยแล้วประมาณ 3 ล้านคน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของต่างชาติไทยมากที่สุด ดังนั้น ททท.มุ่งส่งเสริมความเชื่อมั่นและกระตุ้นการขายในตลาดจีนต่อเนื่อง เร่งส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกผ่านการจัดกิจกรรมแฟมทริป นำศิลปินผู้มีชื่อเสียงร่วมเดินทางและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในตลาดจีน และร่วมกับพันธมิตรจีนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเร่งผลักดันรายได้ตลาดนี้ได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้การลงนาม LOI ของ ททท.กับแอปพลิเคชั่น Fliggy มีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ Mr. Zhuoran Zhuang รองประธานบริหารอาลีบาบา กรุ๊ป และประธานบริหารบริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology ให้เกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานร่วมกัน

นับจากนี้เป็นต้นไปก็จะใช้แอปพลิเคชั่น Fliggy เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ยอดนิยมในตลาดจีน บริษัทในเครือ Alibaba กรุ๊ป รุกเจาะเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเป้าหมายเลือกเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2566 เป็นต้นไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza , www.facebook.com/penroongyaisamsaen