ททท.เปิดแผนปี’67 โกยตลาดต่างชาติ 1.9 ล้านล้าน 34 ล้านคน จัดทัพใหญ่ “สินค้ามูลค่าสูง+ทัวร์ยั่งยืน” เอเชียชูพลัง 5 Mores

  • ททท.เปิดแผนปี’67 พุ่งเป้ากวาดตลาดทั่วโลกหวังรายได้ 1.921 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 34 ล้านคน 
  • ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกใต้เสาหลักทำเงิน 1.33 ล้านล้านบาท 22.1 ล้านคน ดัน 2 ธีม รับ 2 เทรนด์ใหม่ 
  • “High Value+Sustainable” สินค้ามูลค่าสูงผนวกเที่ยวยั่งยืน เสริมทัพด้วย 5 Mores “Alliances-Areas-Agile-Nationwide-Meaningful

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.กำลังทำแผนตลาดการท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2567 โดยทุกฝ่ายร่วมกันทำได้แล้ว 80 % จากนั้นเดือนกรกฎาคม 2566 จะทำให้แล้วเสร็จโดยจัดประชุมแผนการตลาดประจำปีฉบับดังกล่าวที่เมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี เบื้องต้นตั้งเป้า “ตลาดต่างประเทศ” จะต้องทำ “รายได้รวมตามร่างเบื้องต้น 1.921 ล้านล้านบาท นำเข้า “จำนวนนักท่องเที่ยว” 34 ล้านคน ซึ่งทางตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้จะได้รับมอบหมายให้ทำเป้ารายได้รวม1.33 ล้านล้านบาท คิดเป็น 69.26 % จำนวนนักท่องเที่ยว 22.1 ล้านคน เปรียบเทียบแล้วเป้าหมายปีหน้าตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้จะต้องทำสูงกว่าปีนี้ 2566 ตั้งเป้า “รายได้รวม” ไว้ 949,418 ล้านบาท คิดเป็น 63 % และ “จำนวนนักท่องเที่ยวรวม” 18 ล้านคน คิดเป็น 72 %

ส่วนภาพรวม “แผนการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ” ของ ททท.ประจำปี 2567 จะขับเคลื่อนภายใต้ 2 ธีมหลัก ได้แก่ธีมที่ 1 สินค้าท่องเที่ยวมูลค่าสูง -High Value ธีมที่ 2 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน -Sustainbility สะท้อนนโยบายการสร้างเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียนสีเขียว (BCG :Bio Circular Green) และการพัฒนาสู่เป้าหมายความยั่งยืน (SDGs :Sustainable Development Goals) ของรัฐบาลด้วย ซึ่งจะเปลี่ยนผ่านธีมไปเป็นแผนการตลาดท่องเที่ยวของททท.ประจำปีงบประมาณ 2567 อย่างเป็นรูปธรรมแล้วสามารถนำไปขายทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป

นายธเนศวร์กล่าวว่าปี 2567 ททท.เอเชียและแปซิฟิกใต้ จะใส่เกียร์เดินหน้าการตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ “MOREs –ทำให้มากขึ้น ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ทั้งหมด 5 Mores ประกอบด้วย

1.More Alliances ทำงานร่วมกับสายการบินใหม่ พันธมิตร OTA

2.More Areas เปิดพื้นที่ตลาดใหม่ เมืองรอง พร้อมเสนอขายเที่ยวเมืองไทยอย่างเป็นรูปธรรม

3.More Agile เคลื่อนตลาดโดยทำงานเชิงการขายกับหน่วยงานใน ททท.ด้วยกันเองทั้งด้านสินค้า ด้านตลาดในประเทศ ด้านอื่น  ครบทุกส่วน

4. More Nationwide ผนึกความร่วมมือกับตลาดที่มีหลายสำนักงาน ทำโครงการร่วมกันให้อิมแพ็คที่ครอบคลุมโดยเน้นแพลตฟอร์มออนไลน์

5.More Meaningful ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีความหมายและมีมีคุณค่า สะท้อนทางเลือกใหม่ และการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ

ไฮไลต์ปี 2567 ททท.จะต้องสะท้อนทั้งทางเทคนิคและธีมการตลาดท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างทรงพลัง  ด้วยกลยุทธ์ทำโครงการแบบเรียบง่ายมีประสิทธิภาพ (common Project) ตัวอย่าง ปัจจุบัน ททท.มีโครงการมอบรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว -Thailand Tourism Awards /รางวัลกินรี ซึ่งแต่ละประเภทได้รวบรวมรายชื่อสถานที่ประกอบการท่องเที่ยวแต่ละหมวด ที่ได้รับรางวัลการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยลดโลกร้อน ซึ่งมีความหมายและคุณค่า รวมทั้งที่ผ่านมา ททท.ให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลเข้าร่วมงานเทรดส่งเสริมการขายตลาดโลก แต่เมื่อประมวลผลแล้วขณะนี้ต้องกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้ง เนื่องจากการจับคู่สถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอาจจะไม่ก่อให้เกิดน้ำหนักทางการขายสูงมากนัก เพราะมีลักษณะการใช้บริการและความต้องการของลูกค้าออาจไม่ตรงกันก็เป็นได้

ดังนั้นเตรียมจะเสนอในแผนการตลาด ททท.ปี 2567 พลิกโฉมยกระดับสู่โครงการ “Let Kinnaree Fly High –รางวัลกินรีต้องบินสูงให้ได้” ขับเคลื่อนไปกับ 2 ธีม High Value และ Sustainable ตามหลักคิดจะทำในลักษณะTrade+Showcase คือ เปิดเวทีจัดงานจับคู่เจรจาธุรกิจระดับนานาชาติขึ้นใหม่อีก 1 เวที โดยจะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รางวัลกินรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่พักในชุมชน ร้านอาหารดูแลมาตรฐานการลดโลกร้อน แหล่งท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ Supply site คัดสินค้าเด่น  ทั่วไทยมารวมตัวกัน แล้วจับคู่กับเจรจากับตัวแทนการค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

จากนั้นก็ดีไซน์จัดงานเฉพาะขึ้นเป็นแผนปฏิทินประจำแต่ละปี มอบหมายให้ ททท.เอเชีย แปซิฟิกใต้ ทั้ง 18 สำนักงานคัดเลือกผู้ซื้อจากต่างประเทศ อาจจะเป็น KOL, Influencer นักเขียน หรือสื่อ ที่ให้ความสนใจสินค้าดังกล่าว เข้ามาเยี่ยมงานเพื่อจะได้เห็น Tourism Green Awards ของแท้ของเมืองไทย

นายธเนศวร์กล่าวว่าหากโครงการนี้ทำสำเร็จ “ไทย” จะเป็นประเทศแรก  ที่จะผงาดขึ้นผู้นำการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ -Responsible Tourism ซึ่งสามารถสร้างรูปธรรมได้อย่างแท้จริง ด้วยการเปิดโอกาสจัดเวทีให้ผู้ประกอบการกับผู้ที่มีความต้องการเฉพาะ (niche market) มาเลือกสินค้าแล้วไปกระจายข้อมูลอย่างกว้างขวางในตลาดโลกต่อไป

รวมทั้ง ททท.ตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้ จะเดินหน้าวางกรอบแนวคิดหรือทัศนคติใหม่ของนักท่องเที่ยวเรื่องเพิ่มรายได้และจำนวนคนจากตลาดระยะใกล้แถบเอเชียทั้งหมดในปี 2567 ปลุกจิตสำนึกให้หันมาเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม กระจายรายได้ไปยังเมืองท่องเที่ยวเมืงรองเพิ่มขึ้น ในเวทีประชุมสรุปแผนการตลาดท่องเที่ยวเดือนกรกฎาคมนี้ จะผลักดันให้ได้ด้รับการบรรจุไว้ในแผนฉบับใหม่ปี 2567 เพื่อส่งต่อให้เอกชนนำไปใช้ปรับโมเดลธุรกิจทั้งประเทศให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ของ ททท.นำอุตสาหกรรมเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตอย่างมั่นคงยั่งยืนได้ทั้งระบบต่อไป

ทั้งนี้ทททได้จัดทำแผนการตลาดท่องเที่ยวประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจะเริ่มใช้ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567 ควบคู่กับการปรับปรุงแผนวิสาหกิจฉบับทบทวน ..2567-2570 ในฐานะที่ ททท.เป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน (Stratigic Leader in Driving Thailand Towards Experience-based and Sustainable Tourism) ตามค่านิยมองค์กร ททท. : TAT’SPIRITS ภายใต้ 5 พันธกิจ ได้แก่

พันธกิจที่ 1 ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ในการขยายฐานตลาดคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่น เพื่อส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์ท่องเที่ยวของไทย

พันธกิจที่ 2 สร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐาน คุณภาพ และรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยว

พันธกิจที่ 3 ขับเคลื่อนระบบนิเวศน์ด้านการท่องเที่ยว (Tourism Ecosystem) ให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน

พันธกิจที่ 4 พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการตลาดและบริการข้อมูลด้านการตลาดการท่องเที่ยวที่ครบถ้วน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

พันธกิจที่ 5 เสริมสร้าง ททท.เป็นองค์กรสมรรถนะสูง (High Performance Organization) บนพื้นฐานของนวัตกรรมและธรรมาภิบาล

โดยมีวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์หลัก 3 SO (Strategic Objective) 10 ยุทธศาสตร์ย่อยประกอบด้วย

ยุทธศาสตร์ที่ 1 SO1 : Drive Demand มุ่งเน้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ย่อย คือ 1.ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพจากต่างประเทศ 2.กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ 3.สร้างจุดยืนและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณค่า ความรับผิดชอบและความยั่งยืน

ยุทธศาสตร์ที่ 2 SO2 : Shape Supply สร้างคคุณค่าและยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้วย 3 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ1.สร้างเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการเชิงประสบการณ์ 2.ยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกสู่ความยั่งยืน 3.สร้างนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวเพื่อมุ่งสู่ Smart Tourism และส่งเสริมธุรกิจรูปแบบใหม่

ยุทธศาสตร์ที่ 3 SO3 :Trive for Excellence ยกระดับองค์กรสู่สมรรถนะสูง ด้วย 4 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ 1.พัฒนาทรัพยากรบุคลให้เป็นเลิศ 2.ปรับปรุงการทำงานผ่านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี 3.ส่งเสริมการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 4.พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen