ดาวโจนส์เคลื่อนไหวลดลง ดิ่งแรงใกล้ 500 จุด กังวลดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าที่คาด 

  • นักลงทุนตื่นตระหนกเทขายหุ้น หวั่นเฟดปรับนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด
  • ประธานเฟด เซนต์หลุยส์ ระบุ เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้าหน้า
  • มีแรงเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้างนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร

เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ33,336.53 จุด ดิ่งลงแรง 486.92 จุด หรือ -1.44% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่14,078.43 จุด ลดลง 82.92 จุด หรือ -0.59% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,179.83 จุด ลดลง 42.03 จุด หรือ -1.00%

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 5 โดยได้ดิ่งลง 2.8% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ ทำสถิติปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.โดยมีแรงขายหุ้นทุกกลุ่ม นำโดยกลุ่มธนาคารดิ่งลงแรง ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก และเอสแอนด์พีปรับลดลงเช่่นกัน

นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง ในทุกกลุ่ม โดยกังวลว่า ดอกเบี้ยจะขึ้นเร็วกว่าคาด หลังตื่นตกตระหนกจากคำให้สัมภาษณ์ของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้าหรือ ปี 65 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดมาก และเร็วกว่ามติของที่ประชุมเฟดที่ออกมาวานนี้

“ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% จนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด” นายบูลลาร์ดกล่าว

นายบูลลาร์ดระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้ ถือเป็นการรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใกล้จะยุติลงแล้ว ขณะที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากประกาศล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ผลประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่ได้ส่งสัญญาณในเดือนมี.ค.ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้ เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566

ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เปิดเผยว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดเตรียมชะลอการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น

นอกจากนั้น การซื้อขายจะเป็นไปอย่างผันผวนในวันนี้ คาดว่ามีส่วนจากวันนี้เป็นวัน quadruple witching ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบออปชั่นและสัญญาล่วงหน้ารายไตรมาสของหุ้นและดัชนีต่างๆพร้อมกัน