.นักลงทุนเทขายทำกำไร-ลดความเสี่ยง หุ้นใหญ่ปรับลงระนาว
.ตลาดเมินข่าวดีตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำสุดตั้งแต่มีโควิด-19
.ราคาน้ำมันดิบร่วงฉุดหุ้นน้ำมันลง หวั่นล็อกดาวน์กระทบความต้องการ
เมื่อเวลา 22.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,251.63 จุด ลดลง
168.43 จุด หรือ -0.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,864.23 จุด ลดลง 97.66 จุด หรือ -0.75%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,875.83 จุด ลดลง13.31 จุด หรือ 0.37%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวตัวผันผวน ในแดนลบ โดยดัชนีลดลง ตามการลดลงของราคาหุ้นบริษัทรายใหญ่ที่เข้ามาเป็นปัจจัดกดดันตลาด นำโดยหุ้นไนกี้ ที่หุ้นโบอิ้ง หุ้นวอลกรีนส์ บู๊ทส์ หุ้นทวิสเตอร์ หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลว่ามาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นายพาวเวล ประธานเฟด และนางเยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสวันก่อนว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความคืบหน้ามากขึ้น
สอดคล้อง กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 684,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงกลางเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 735,000 ราย
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 700,000 ราย อีกทั้งยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดซึ่งอยู่ที่ 695,000 ราย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 781,000 ราย จากเดิมรายงานที่ระดับ 770,000 ราย
