ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้น 238 จุด ขานรับเศรฐกิจฟื้นตัว

.บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐส่วนใหญ่เผยผลประกอบการดีกว่าคาด
.นักลงทุนซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
.ตลาดจับตาตลาดแรงงาน-มาตรการกระตุ้นเศรฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3พ.ค.ที่ 34,113.23 จุด เพิ่มขึ้น 238.38 จุด หรือ +0.70% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,192.66 จุด เพิ่มขึ้น 11.49 จุด หรือ +0.27% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,895.12 จุด ลดลง 67.56 จุด หรือ -0.48%

ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ โดยบริษัทราว 87% รายงานผลประกอบการต่อหุ้นสูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้

ดัชนียังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้น โดยไอเอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 60.5 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 59.1 ในเดือนมี.ค.

ดัชนี PMI ดีดตัวขึ้นในเดือนเม.ย.แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ค. 2550 และดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ

หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มวัสดุ ปรับตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นเติบโต อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ปรับตัวลงตามแนวโน้มการกลับมาเปิดเมืองและทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตัวใหญ่ๆ อาทิ แอมะซอน.คอม, อัลฟาเบท, เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง แม้เปิดเผยผลประกอบการที่สดใส ทำให้ดัชนีแนสแด็กฯปรับตัวลดลง

หุ้นแก๊ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเสื้อผ้า พุ่งขึ้น 7.16% และหุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 4.03% หลังเปิดเผยว่า บริษัทจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 34 ล้านโดสในปีนี้ให้กับโครงการ COVAX ทั่วโลก

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. รวมทั้งความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรฐกิจเพิ่มเติมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และจะรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทที-โมบาย, อูเบอร์ และไฟเซอร์ในสัปดาห์นี้